เมื่อเดินทางไปญี่ปุ่น การนำเข้ายาบางชนิดมีข้อกำหนดและข้อห้ามที่เข้มงวด การนำเข้ายาที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือยาที่มีส่วนประกอบต้องห้ามอาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางกฎหมายร้ายแรง วันนี้พี่ยักษ์จะมาให้ข้อมูลว่ายาประเภทใดที่ห้ามนำเข้าญี่ปุ่น และวิธีการเตรียมตัวในการนำยาเข้าประเทศญี่ปุ่นอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นจะได้ไม่ทำผิดกฏหมายและสามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อย่างราบรื่นค่ะ
ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกมาประกาศเตือนยาห้ามนําเข้าญี่ปุ่นโดยมีทั้งหมด 11 ชนิด เพราะเป็นยาที่มีส่วนผสมต้องห้าม ผิดกฏหมายของประเทศญี่ปุ่น แต่ยาส่วนใหญ่นี้ไม่มีวางขายในประเทศไทย หรือบางตัวก็ถูกห้ามขายในประเทศไทยไปแล้ว แต่เพื่อความชัวร์และออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศแบบสบายใจ อย่าลืมตรวจสอบกันอีกครั้งนะคะ
11 ยาห้ามนําเข้าญี่ปุ่น รู้ไว้ถ้าไม่อยากติด ตม.
- ยาที่มีส่วนประกอบของสารเสพติด
- ยาที่มีส่วนประกอบของสารเสพติด เช่น ยาเมทแอมเฟตามีน (methamphetamine) และยาที่มีส่วนผสมของสารแอมเฟตามีน (amphetamine) ถูกห้ามนำเข้าญี่ปุ่น
- ยาที่มีส่วนประกอบของสารเสพติดประเภทต่างๆ เช่น มอร์ฟีน (morphine), โคเคน (cocaine), เฮโรอีน (heroin) และสารเสพติดอื่นๆ
- ยาที่มีส่วนผสมของสารเสพติดในระดับต่ำ
- ยาที่มีส่วนประกอบของสารเสพติดในระดับต่ำ เช่น โคเดอีน (codeine) ที่มีอยู่ในยาบรรเทาอาการปวดบางชนิด อาจถูกห้ามหรือต้องขออนุญาตพิเศษก่อนนำเข้า
- ยากลุ่มสเตียรอยด์ (Steroids):
- ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์บางชนิดอาจถูกห้ามนำเข้าหรือต้องขออนุญาตพิเศษ
- ยาที่มีส่วนประกอบของ Pseudoephedrine:
- ยาแก้คัดจมูกและยาแก้หวัดบางชนิดที่มีส่วนผสมของ Pseudoephedrine อาจถูกห้ามนำเข้าหรือต้องขออนุญาตพิเศษ
โดยกลุ่ม ยาห้ามนำเข้าญี่ปุ่น มีรายละเอียด ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ยาที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีน จำพวกยาแก้หวัด แก้แพ้ ลดน้ำมูก
- TYLENOL COLD
- SUDAFED
- ADVIL COLD & SINUS
- ACTIFED
- DRISTAN COLD/ “NO DROWSINESS”
- DRISTAN SINUS
- DRIXORAL SINUS
กลุ่มที่ 2 ยาแก้หวัดที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย
- NYQUIL
- NYQUIL LIQUICAPS
- VICKS INHALER
กลุ่ม 3 ยาแก้ท้องเสีย ที่มีการยกเลิกการขึ้นทะเบียนในประเทศไทยแล้ว
- LOMOTIL
ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาออกมาแนะนำเรื่อง ยาห้ามเข้าญี่ปุ่น ว่า สำหรับผู้ที่จะต้องนำยาติดตัวเพื่อใช้เฉพาะตนเองเมื่อเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นห้ามแกะยาออกจากแผงบรรจุยาที่มีชื่อยาระบุไว้ และควรมียาในปริมาณที่นำไปใช้แค่ 30 วัน เท่านั้นในกรณีเพื่อรักษาตนเอง ส่วนในกรณีที่จำเป็นต้องใช้เกิน 30 วัน หรือเป็นยาที่มีส่วนผสมของยาเสพติดให้โทษที่ใช้ทางการแพทย์จะต้องมีมาตรการควบคุมเป็นกรณีพิเศษ เช่น ยาแก้ปวดที่มีส่วนประกอบเฟนทานิล (Fentanyl),เพทิดีน (Pethidine) เป็นต้นโดยต้องทำเรื่องขอและได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อใช้รักษาเฉพาะตัวก่อนออกเดินทาง
การนำยาเข้าประเทศญี่ปุ่น
สำหรับยาที่ไม่ถูกห้ามแต่มีความจำเป็นในการเดินทาง คุณสามารถนำเข้าญี่ปุ่นได้ แต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและข้อกำหนดดังนี้
- ยาใช้ส่วนตัวในปริมาณเล็กน้อย:
- ยาสามัญที่ใช้ส่วนตัว เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวด และยารักษาโรคทั่วไป สามารถนำเข้าประเทศได้ในปริมาณที่ใช้สำหรับการเดินทาง (ไม่เกิน 1 เดือน)
- ขออนุญาตนำเข้ายาพิเศษ (Yakkan Shoumei):
- หากต้องการนำเข้ายาในปริมาณมากกว่าที่กำหนด หรือยาที่มีข้อกำหนดพิเศษ คุณจะต้องขออนุญาตนำเข้ายา (Yakkan Shoumei) จากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น
- เตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบสั่งยาจากแพทย์ และใบรับรองการใช้ยา
- ส่งเอกสารและคำขออนุญาตนำเข้ายาล่วงหน้าไปยังสำนักงานยาของกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น
- การเตรียมเอกสารที่จำเป็น:
- นำสำเนาใบสั่งยาจากแพทย์ที่ระบุรายละเอียดของยา ปริมาณ และวิธีการใช้
- นำเอกสารรับรองจากแพทย์ที่ระบุว่า ยาที่นำเข้ามีความจำเป็นสำหรับการรักษาโรคของคุณ
รู้แบบนี้แล้วเพื่อนๆ ที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่น ต้องศึกษาข้อมูลเรื่อง ยาห้ามเข้าญี่ปุ่น ให้ดีนะคะ เพื่อจะได้ไม่ทำให้หมดสนุกทริปล่มเพราะติด ตม. เผลอๆอาจถูกดำเนินคดีอีกด้วย แต่ถ้าจองทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศกับพี่ยักษ์เราพร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่เริ่มต้นจนจบทริปเลยค่ะ ยา 11 ชนิดห้ามนําเข้าญี่ปุ่น รู้ไว้ถ้าไม่อยากติด ตม.
สนใจไปเที่ยวที่ไหน เข้าไปดูโปรแกรมทัวร์ทั่วโลกได้ที่ www.yaktour.co หรือทักหาเจ้าหน้าที่ของเราเพื่อรับคำปรึกษาแบบเป็นส่วนตัวได้ที่ Line : @yaktour