เที่ยวญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี 2025 เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเฝ้ารอคอยไปสัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกของใบไม้ที่เปลี่ยนจากเขียวเป็นเหลือง ส้ม และแดง สะท้อนกับแสงแดดอ่อนในฤดูใบไม้ร่วง
ปี 2025 นี้ ฤดูใบไม้ร่วงคาดการณ์ว่าอากาศจะเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ยาวนานกว่าหลายปีที่ผ่านมา เท่ากับว่าเราจะมีเวลาให้เลือกเดินทางมากขึ้น และมีโอกาสได้ชมใบไม้แดงในหลายเมืองแบบไม่ต้องรีบเร่ง แถมหลาย จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ยังเริ่มมีการจัดกิจกรรมและเทศกาลพิเศษขึ้นในช่วงนี้อีกด้วย บทความนี้เรารวมข้อมูลท่องเที่ยวไว้ให้แบบครบๆ ตามไปดูกันได้เลย !
เที่ยวญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี 2025 เวลาไหนดีที่สุด?
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนจนถึงต้นเดือนธันวาคม โดยจะเริ่มจากทางเหนือสุดของเกาะฮอกไกโด ไล่ลงมาทางใต้จนถึงภูมิภาคคิวชู
การพยากรณ์ ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2025 จะแม่นยำขึ้นเมื่อใกล้ถึงช่วงเวลาจริง โดยปกติแล้วสื่อท่องเที่ยวและเว็บไซต์พยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นจะเริ่มอัปเดตข้อมูลพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีตั้งแต่ช่วงปลายฤดูร้อน ดังนั้น เพื่อให้คุณมั่นใจว่าไปแล้วจะไม่พลาดชมใบไม้แดงสวยๆ ดู พยายากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ปี 2025 ได้ที่นี่ก่อนเลย

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมในญี่ปุ่น 2025
เกียวโต
- อาราชิยาม่า (Arashiyama)
ย่านธรรมชาติชื่อดังทางตะวันตกของเกียวโต ที่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ ด้วยวิวภูเขาที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแดง ส้ม เหลือง ตัดกับแม่น้ำโฮซุกาวะ และสะพานโทเก็ตสึเคียวที่ทอดยาวกลางสายหมอกอ่อนๆ
กิจกรรมน่าทำ : เดินชมวิว นั่งรถลากชมเมืองเก่า นั่งรถไฟสายโรแมนติก Sagano และจิบชาในร้านญี่ปุ่นดั้งเดิมริมแม่น้ำอีกด้วย
ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางพฤศจิกายนถึงต้นธันวาคม ซึ่งใบไม้จะเปลี่ยนสีสวยเต็มที่และถ่ายรูปได้งดงามมาก

- วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera)
หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “วัดน้ำใส” เป็นหนึ่งในจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกียวโต จุดเด่นคือระเบียงไม้ขนาดใหญ่ที่ยื่นออกจากตัวอาคารบนเนินเขา มองเห็นวิวทิวเขาและต้นเมเปิ้ลที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มทั่วบริเวณ ในช่วงกลางคืนที่นี่ประดับไฟทำให้บรรยากาศสวยงามมากขึ้นไปอีก
กิจกรรมน่าทำ : ชมวิว เดินชมศาลเจ้า จิบชา หรือซื้อของฝากจากร้านค้าท้องถิ่นระหว่างทางขึ้นวัด
ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่สีสันของใบไม้จัดจ้านที่สุด

โตเกียว
- สวนเมจิ จินกุ ไกเอน (Meiji Jingu Gaien)
จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดคลาสสิกในโตเกียว โด่งดังจากถนนต้นแปะก๊วยเรียงรายกว่า 140 ต้น เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองพร้อมกันเป็นอุโมงค์ธรรมชาติยาว 300 เมตร เหมาะสำหรับคนที่อยาก เที่ยวญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี 2025 แบบไม่ต้องออกนอกเมือง เดินทางสะดวก
กิจกรรมน่าทำ : ถ่ายรูป ปิกนิก หรือแวะคาเฟ่ชิลๆ รอบๆ
ช่วงเวลาที่เหมาะสม : เปลายพฤศจิกายนถึงต้นธันวาคม ใบไม้จะสวยเต็มที่และถ่ายรูปได้สวยงามมาก

- สวนอุเอโนะ (Ueno Park)
หนึ่งในสวนสาธารณะขนาดใหญ่และเก่าแก่ของโตเกียว ที่ไม่ได้มีดีแค่ซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ช่วง ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2025 ที่นี่จะค่อยๆ ถูกย้อมด้วยสีแดง ส้ม และเหลืองจากต้นไม้หลากหลายสายพันธ์ุที่เรียงรายอยู่รอบสวน โดยเฉพาะโซนรอบสระน้ำที่เป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิต
กิจกรรมน่าทำ : เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ เที่ยวสวนสัตว์ และสักการะศาลเจ้า
ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ต้นเดือนจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน

นิกโก้
- ทะเลสาบชูเซนจิ (Lake Chuzenji)
หนึ่งในจุดชมวิวธรรมชาติที่งดงามที่สุดของภูมิภาคคันโต ตั้งอยู่ในเมืองนิกโก้ จังหวัดโทจิกิ ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ป่ารอบทะเลสาบจะกลายเป็นสีแดง ส้ม และเหลือง ตัดกับผิวน้ำใสสะท้อนทิวเขาสวยงาม
กิจกรรมน่าทำ : ล่องเรือในทะเลสาบ นั่งชมวิวจากจุดชมด้านบน แวะน้ำตกเคะงอนที่อยู่ไม่ไกลกัน
ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางถึงปลายตุลาคม

- น้ำตก เคงอน (Kegon Falls)
เที่ยวญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี 2025 นี้ น้ำตกเคงอนคืออีกหนึ่งจุดไฮไลต์ของเมืองนิกโก้ ที่ไม่ควรพลาด น้ำในน้ำตกสูงกว่า 90 เมตรแห่งนี้ไหลลงมาจากทะเลสาบชูเซนจิ บนฉากหลังของภูเขาและป่าไม้ที่เปลี่ยนสีอย่างสดใส สีสันของใบไม้ตัดกับสายน้ำตกที่ไหลแรงจากหน้าผา ทำให้เกิดเป็นภาพธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และงดงามมากทีเดียวค่ะ ไม่แปลกเลยที่ที่นี่จะถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางถึงปลายเดือนตุลาคม

ฮาโกเน่
- ทะเลสาบอาชิ (Lake Ashi)
อีกหนึ่งจุดหมาย เที่ยวญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี 2025 ที่ควรอยู่ในลิสต์ ที่นี่เราจะได้เห็นใบไม้รอบทะเลสาบที่เปลี่ยนเป็นสีส้ม แดง และเหลืองสะท้อนลงบนผิวน้ำ โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิที่เห็นได้ชัดเจนในวันที่อากาศแจ่มใส ใครที่หลงใหลบรรยากาศสงบๆ กับวิวที่สวยราวภาพวาดฮาโกเน่คือประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาดเลยค่ะ
กิจกรรมน่าทำ : ล่องเรือโจรสลัดเพื่อชมวิวโดยรอบ พร้อมแวะเที่ยวศาลเจ้าฮาโกเน่หรือพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่อยู่ใกล้เคียง

- พิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางแจ้งฮาโกเน่ (Hakone Open-Air Museum)
หนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่สุด ด้วยงานศิลปะกลางแจ้งมากมายที่จัดแสดงท่ามกลางธรรมชาติสีสันสดใสของฤดูใบไม้ร่วง เหมาะสำหรับเดินเล่น ชมศิลปะ และถ่ายภาพสวยๆ ในบรรยากาศโรแมนติกแบบสโลว์ไลฟ์ จึงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมเป็นอย่างมาก
ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ปลายตุลาคมถึงกลางพฤศจิกายน

ซัปโปโร
- มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University)
มหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร มีต้นแปะก๊วยกว่า 70 ต้นเรียงรายสองฝั่งถนนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่ามสวยงามราวกับอุโมงค์ มีภาพหลังเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปผสมญี่ปุ่น นอกจากถ่ายภาพสวยๆ แล้ว ยังเดินเล่น หรือแวะพักในคาเฟ่ของมหาวิทยาลัยที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสบรรยากาศแบบชิลๆ ได้อีกด้วยค่ะ
ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ปลายตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายน

- สวนโมเอะเรนุมะ (Moerenuma Park)
สวนสาธารณะดีไซน์ล้ำใจกลางซัปโปโร ผลงานของศิลปินระดับโลก อิซามุ โนงุจิ ที่ผสมผสานศิลปะเข้ากับภูมิทัศน์อย่างลงตัว ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้รอบสวนจะพร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง ส้ม ตัดกับโครงสร้างโมเดิร์นของสวนได้อย่างน่าประทับใจ
กิจกรรมน่าทำ : ปั่นจักรยาน เดินเล่น หรือถ่ายภาพมุมเก๋ๆ
ช่วงเวลาที่เหมาะสม : เดือนตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายน

กิจกรรมและเทศกาลในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
งาน Light-up ใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติก
หลายเมืองทั่วญี่ปุ่นจะจัดกิจกรรม Light-up ใบไม้เปลี่ยนสี โดยใช้แสงไปส่องไปยังต้นไม้และสวนต่างๆ ให้บรรยากาศโรแมนติก ให้บรรยากาศที่แตกต่างจากช่วงกลางวันอย่างมาก โดยแต่ละเมืองก็จะมีการจัด Light up ตามสถานที่ต่างๆ
- เกียวโต จัดที่ วัดคิโยมิซุเดระ วัดเอนโคจิ
- โตเกียว สวนริคุงิเอ็น
- ฮอกไกโด สวนโมเอะเรนุมะ มหาวิทยาลัยฮอกไกโด
เทศกาลอาหารฤดูใบไม้ร่วงและวัฒนธรรมท้องถิ่น
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวพืชผลและวัตถุดิบชั้นดี จึงมีการจัดเทศกาลอาหาร ตามเมืองต่างๆ เช่น เทศกาลเกาลัดในนากาโนะ เทศกาลแซลมอนในฮอกไกโด หรือเทศกาลเห็ดมัตสึทาเกะในเกียวโต นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองอาหารตามฤดูกาลแบบต้นตำรับ พร้อมชมการแสดงพื้นบ้าน ขบวนพาเหรด หรือร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น ชงชา ทำขนมญี่ปุ่น และชมดนตรีพื้นเมืองได้แบบใกล้ชิด
วิธีการเดินทางและเคล็ดลับการเที่ยว
1. การใช้ JR Pass เพื่อประหยัดค่าเดินทาง
เที่ยวญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี 2025 นี้ หากวางแผนเที่ยวหลายเมือง เช่น โตเกียว–เกียวโต–โอซาก้า–ฮอกไกโด แนะนำให้ซื้อ JR Pass ล่วงหน้าก่อนเดินทาง เพราะสามารถใช้โดยสารรถไฟชินคันเซ็น รถด่วนพิเศษ และรถไฟ JR ได้ไม่จำกัดในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น 7, 14 หรือ 21 วัน ซึ่งคุ้มกว่าซื้อตั๋วรายเที่ยว และยังสะดวกต่อการเปลี่ยนแผนระหว่างทริปได้อย่างยืดหยุ่น
2. การเลือกที่พักใกล้จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี
การเลือกที่พักให้ใกล้กับจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีช่วยให้คุณประหยัดเวลาเดินทาง และออกไปถ่ายภาพช่วงเช้าหรือเย็นได้สะดวก ควรจองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน เพราะช่วงพีคของใบไม้เปลี่ยนสี โรงแรมที่พักมักเต็มเร็วมาก
3. เคล็ดลับการเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่ควรมี
อุณหภูมิช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 7-17 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับภูมิภาค แนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าสำหรับอากาศเย็นไว้ ดังนี้
- เสื้อกันลม / แจ็กเก็ตบางๆ
- ฮีทเทค หรือเสื้อด้านในเก็บความร้อน
- ผ้าพันคอและถุงมือ (โดยเฉพาะถ้าไปฮอกไกโด)
- รองเท้าสบาย ใส่เดินทั้งวันได้
- ร่มพับเล็ก เผื่อมีฝนปรอย
ใบไม้เปลี่ยนสี 2025 เป็นช่วงเวลาที่พลาดไม่ได้ สำหรับใครที่ไม่อยากแพลนเอง สามารถจองทัวร์ ญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี กับยักษ์ทัวร์ได้เลยค่ะ แต่ขอแนะนำว่าควรรีบจองตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงพีค ทัวร์เต็มไวมากเลยค่ะ
✅ สนใจ ทัวร์ญี่ปุ่น ติดต่อ ยักษ์ทัวร์ เพื่อแพลนการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร!
Line Official Account | @yaktour 👉🏼 https://lin.ee/NLwXWc1
📌 วางแผนเที่ยวเองก็ง่าย หรือจะให้ ยักษ์ทัวร์ พาเที่ยวแบบไม่ต้องเหนื่อยแพลนก็ยิ่งสะดวก
ไม่พลาดเรื่องเที่ยว และดีลเด็ด ติดตามยักษ์ทัวร์ได้ทุกช่องทาง
Facebook | yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/ov7AJ
Instagram | @yaktour_th 👉🏼 https://shorturl.at/2uS64
TikTok | @yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/DMF90
สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
Line Official Account | @yaktour 👉🏼 https://shorturl.at/uWfA4
🔍 แนะนำให้อ่าน