วัน-เวลาทำการ :
จันทร์ - ศุกร์ 10.00-19.00 น.

เบอร์โทรติดต่อ :
02-077-8252 086-408-9824 ,

เปิด 7 พิกัด เที่ยวจอร์เจีย สัมผัสบรรยากาศยุโรปแบบไม่ต้องขอวีซ่า

กันยายน 21, 2023 | by Yaktour

 

เข้าสู่ช่วงปลายปี ใครกำลังมองหาที่เที่ยว มา เที่ยวจอร์เจีย หรือ ทัวร์จอร์เจีย ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีมากๆ เพราะประเทศที่ตั้งอยู่สุดขอบทวีปเอเชียใกล้กับยุโรปจนได้ชื่อว่าเป็นประเทศสองทวีป แห่งนี้มีลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นเทือกเขาสูงโดยด้านบนก็จะมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดทำให้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และค่าครองชีพยังไม่สูงอีกด้วย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับนักเดินทาง 

วันนี้ พี่ยักษ์ จึงนำ 7 พิกัด เที่ยวจอร์เจีย สัมผัสบรรยากาศยุโรปแบบไม่ต้องขอวีซ่า มาฝากกัน จะมีที่ไหนบ้างตามมาดูกันเลย!!

 

โบสถ์เกอร์เกติ (Gergeti Trinity Church)

 

โบสถ์เกอร์เกติ ที่เที่ยวจอร์เจีย

 

เที่ยวจอร์เจีย ที่แรก โบสถ์เกอร์เกติ หรือ ในภาษาจอร์เจียน คือ โบสถ์สมินดา ซาเมบา (Tsminda Sameba) เป็นโบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 600 กว่าปี เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สวยที่สุดในโลก เพราะฉากหลังเป็นเทือกเขาคอเคซัส ตั้งอยู่บนภูเขาสูงกว่า 2,170 เมตร ภายใต้ยอดเขา Kazbegi ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้าน Gergeti ในเมือง Stepantsminda โดยตัวโบสถ์นั้นสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 โบสถ์เกอร์เกติแห่งนี้นอกจากจะเป็นศาสนสถานสำคัญของศาสนาคริสต์แล้ว ในอดีตยังเคยเป็นสถานที่หลบภัยของผู้คนในยามที่ประเทศถูกรุกรานอีกด้วย ระหว่างทางขึ้นไปยังโบสถ์เกอร์เกติบอกเลยว่าวิวสองข้างทางสวยมาก ถือเป็น ที่เที่ยวจอร์เจีย ที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว

 

อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia–Georgia Friendship Monument)

 

อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย

 

ทัวร์จอร์เจีย 2023 ทริปนี้ ไม่พลาดที่จะพาทุกคนไปชมวิว เทือกเขาคอเคซัส กันแบบ 360 องศา พร้อมพาชมสถาปัตยกรรมศิลปะโซเวียต กันที่  อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia–Georgia Friendship Monument) หรือที่เรียกกันในภาษาคนท้องถิ่นว่า  Gudauri View Point  ที่นี่จะมีลักษณะเป็นกำแพงหินโค้งขนาดใหญ่บนเนินเขามีจิตรกรรมภาพวาดบนกระเบื้องซึ่งมีสีสันสดใสสวยงาม ตัดกับฉากหลังของภูเขา โดยจะบอกเล่าประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างจอร์เจียและรัสเซียไว้ให้เราได้ชมกัน

 

ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress)

 

ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress)
ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress)

 

เที่ยวจอร์เจีย ถัดมา คือ ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Aragvi มีกำแพงล้อมรอบ ที่นี่สร้างตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 16-17  โดย Duke of Aragvi เพื่อเป็นป้อมปราการไว้หลบภัยในสงคราม ภายในมีโบสถ์และหอคอยที่ถูกสร้างไว้อย่างอลังการส่วนข้างล่างเป็นอ่างเก็บน้ำซินวาลี (Zhinvali Reservoir) ไว้ส่งต่อน้ำไปยังเมืองหลวง เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้คนจอร์เจียใช้กัน ใครได้มา ทัวร์จอร์เจีย 2023 ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวชมความสวยงามของป้อมอนานูรีกันนะคะ

 

เมืองบอร์จอมี (Borjomi)

 

เมืองบอร์จอมี (Borjomi)

 

พาเที่ยวเมืองตากอากาศของชาวจอร์เจียกันที่ เมืองบอร์จอมี (Borjomi) นับเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำแร่และการแช่น้ำร้อน เพราะเค้ามีการรวิจัยว่าช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและโรคเบาหวานได้ และยังมีการส่งออกน้ำแร่แบบบรรจุขวดไปยังประเทศต่างๆ อีกด้วย ที่นี่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อน นอกจากการแช่น้ำร้อนแล้วก็ยังได้ชมความสวยงามของธรรมชาติที่อุดสมบูรณ์ ดื่มด่ำกับบรรยากาศสดชื่น อีกทั้งยังมีเส้นทางนั่งกระเช้าชมเมืองขึ้นไปบนเขาอีกด้วย เที่ยวจอร์เจีย อยากได้ฟีลพักต่างอากาศต้องมาที่นี่เลยค่ะ

 

เมืองโบราณอุพลิสชิเค (Uplistsikhe)

 

เมืองโบราณอุพลิสชิเค (Uplistsikhe)
เมืองโบราณอุพลิสชิเค (Uplistsikhe)

อีกหนึ่ง ที่เที่ยวจอร์เจีย เก่าแก่ที่มีอายุกว่า 3,000 ปีแล้ว เมืองโบราณอุพลิสชิเค (Uplistsikhe)

เป็นเมืองถ้ำโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก น่าจะสร้างมาตั้งแต่สมัยยุคหิน เมืองสร้างโดยการเจาะภูเขาหินจนลึกเข้าไปเป็นถ้ำ และมีการอยู่อาศัยกันจนเป็นชุมชนใหญ่ มีทั้งที่พักอาศัย ร้านค้า โบสถ์ คุก และอื่นๆ โดยรอบๆ เมืองยังมีวิวเทือกเขา และแม่น้ำมิกวาริที่สวยงามอีกด้วย

 

มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งทบิลิซี

 

มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งทบิลิซี
มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งทบิลิซี

 

ที่ยวจอร์เจีย ต่อกันที่ มหาวิทหารศักดิ์สิทธิ์แห่งทบิลิซี ที่เรียกกันว่า Sameba ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของจอร์เจีย สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1995-2004 เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาของคริสตจักรออร์โธดอก เป็นวิหารที่สูงที่สุด อันดับที่ 3 ของโบสถ์ออร์โธดอกในโลก ที่นี่มีความโดดเด่นจึงทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่งทุกมุมโลกต่างพากันมาชมความงดงามของสถาปัตยกรรมของสถานที่แห่งนี้ ว่ากันว่าถ้ามาจอร์เจียแล้วไม่ได้มาสถานที่แห่งนี้ถือว่ามาไม่ถึงกันเลย

 

สะพานสันติภาพ (The Bridge of Peace)

สะพานสันติภาพ (The Bridge of Peace)
สะพานสันติภาพ (The Bridge of Peace)

เที่ยวจอร์เจีย มาถึงที่สุดท้ายก็คือ สะพานสันติภาพ (The Bridge of Peace) ที่นี่มีสถาปัตยกรรมที่คงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบดั้งเดิมไว้ให้ได้ชม ออกแบบโดย Michele De Lucchi ซึ่งสะพานแห่งนี้มีความยาว 150 เมตร ด้วยความสวยงามของสะพานแห่งนี้ทำให้นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ที่นี่ยังสามารถมองเห็นได้หลายมุมจากในเมืองไม่ว่าจะเป็น illuminating หรือนั่งกระเช้าชมจากมุมสูงก็ยังได้ ไฮไลท์อยู่ที่ช่วงกลางคืนก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน เพราะจะมีการแสดงสีบริเวณสะพานเป็นเวลา 90 นาที เป็นช่วงเวลาที่พิเศษมากเลยทีเดียว

 

สรุป

วันนี้พี่ยักษ์พาทุกคนเต็มอิ่มกับการเปิดประสบการณ์ เที่ยวจอร์เจีย ประเทศในฝันที่ใครๆ ก็อยากมาสักครั้งในชีวิต นอกจาก 7 พิกัดเด็ดที่นำมาฝากแล้วจอร์เจียก็ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอให้คุณมาสัมผัส ใครพร้อมแล้วจอง ทัวร์จอร์เจีย กับพี่ยักษ์แล้วออกเดินทางได้เลย

สอบถามข้อมูล และปรึกษาแผนการเที่ยวได้ที่ Line : @yaktour

โทรศัพท์

  • 082-203-9942
  • 086-408-9824
  • 086-384-4045
  • 02-077-8252