วัน-เวลาทำการ :
จันทร์ - ศุกร์ 10.00-19.00 น.

เบอร์โทรติดต่อ :
02-077-8252 086-408-9824 ,

ภูเขาหิมะมังกรหยก พิชิตเทือกเขาแดนสวรรค์แห่งเมืองลี่เจียง

กันยายน 18, 2024 | by Yaktour

ภูเขาหิมะมังกรหยก ไปเดือนไหนดี

 

เที่ยวจีนพาไปพิชิต ภูเขาหิมะมังกรหยก สัมผัสความสวยอลังการของธรรมชาติ เส้นทางนี้สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี จัดว่าเป็นสุดยอดไฮไลท์ของการมาเที่ยวลี่เจียงเลยก็ว่าได้ และด้วยความที่วิวธรรมชาติสวยงามเหมือนกับเทือกเขาหิมะในยุโรป แถมยังมีหิมะตกตลอดทั้งปี ที่นี่จึงเป็นสถานที่เที่ยวสุดฮิตที่ควรค่าแกการมาเยือนสักครั้งในชีวิต 

วันนี้ยักษ์ทัวร์ขอพาไปความรู้จักกับ ภูเขาหิมะมังกรหยก พร้อมบอกข้อมูลการท่องเที่ยวว่าควรไปเดือนไหน อากาศเป็นอย่างไร มีไฮไลท์ที่เที่ยวที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย

 

add-line-get-promotion

ภูเขาหิมะมังกรหยก อยู่ที่ไหน

ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองลี่เจียง ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ที่นี่มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงมียอดเขาทั้งหมด 13 ยอดที่ตั้งเรียงรายกันอย่างคดเคี้ยวมีรูปร่างคล้ายมังกรที่กำลังเลื้อยอยู่ และยังมีหิมะตกลงมาปกคลุมตลอดทั้งปี จึงเรียกกันว่าภูเขาหิมะมังกรหยก โดยมียอดเขาที่สูงที่สุดชื่อว่า ซ่านจือโต่ว ความสูงอยู่ที่ 5,596 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นเทือกเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามทางธรรมชาติ จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ของจีน และยังเป็นอุทยานธรณีธารน้ำแข็งแห่งชาติอีกด้วย 

นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าไฟฟ้า ประมาณ 20 นาที เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขา ที่ความสูงกว่า 3,356 เมตร เพื่อชมบรรยากาศบนยอดเขาที่ถูกปกคลุมหิมะสีขาว ล้อมรอบไปด้วยเมฆ และหมอกตลอดทั้งปี ซึ่งจุดนี้สามารถถ่ายรูปโดยมีฉากหลังที่เป็นภูเขาหิมะมังกรหยกอันแสนงดงามได้เลย แต่ถ้าใครอยากขึ้นไปพิชิตจุดสูงสุดของภูเขา ก็จะมีทางเดินไม้กระดานขึ้นไปชมวิวข้างบนที่ความสูง 4,680 เมตร บอกเลยว่าวิวสวยอลังการเหมือนอยู่สวรรค์เลยทีเดียว

 

ภูเขาหิมะมังกรหยก ควรไปเดือนไหน

 

ฤดูหนาว เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์

ช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0 – 10 องศา ช่วงนี้อากาศหนาวสุดๆ ยิ่งถ้าอยู่บน ภูเขาหิมะมังกรหยก อุณหภูมิก็จะยิ่งต่ำลงจนถึงติดลบได้เลย และเดือนที่มีหิมะหนาวที่สุดและหิมะฟูหนาสวยลามสุดก็จะเป็นเดือนมกราคมนั่นเองค่ะ

 

ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม

ช่วงฤดูใบไม้ผลิอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 5 – 17 องศา อากาศเย็นสบายกำลังดีไม่หนาวจัดเหมือนฤดูหนาว บรรยากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ช่วงเดือนมีนาคมยังได้เห็นหิมะหนาๆปกคลุมภูเขาอยู่ ส่วนในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมดอกไม้จะเริ่มบานสวยงาม

 

ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม

ถึงแม้จะเป็นฤดูร้อนแต่อากาศบนภูเขาก็ยังสบายๆ ไม่ร้อนมาก อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 14 –  23 องศา และบนภูเขาก็ยังมีหิมะอยู่ แถมยังได้เห็นวิวต้นไม้ใบหญ้าบนภูเขาเป็นสีเขียวชอุ่ม ดูแล้วสดชื่นมากเลยค่ะ แต่ถ้าใครได้มาเที่ยว ภูเขาหิมะมังกรหยก ช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม อาจมีฝนตกตอนกลางวัน ควรเตรียมเสื้อกันฝน หรือ ร่มมาด้วยนะคะ

 

ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน  – เดือนพฤศจิกายน

ช่วงนี้อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8 – 19 องศาเซล อากาศสดชื่น แจ่มใส เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะได้เห็นวิวภูเขาหิมะมังกรหยกได้อย่างชัดเจนแล้ว เราจะได้เห็นความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วย

สรุป ภูเขาหิมะมังกรหยกควรไปเดือนไหน ก็ต้องตอบว่าไปเที่ยวได้ทุกเดือนเลยค่ะ เพราะที่นี่เป็นเทือกเขาสูงสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีขึ้นอยู่กับว่าเราชอบแบบไหน และถ้าใครชอบอากาศหนาวจัดๆ หิมะหนาๆ แนะนำให้เดินทางช่วงเดือนธันวาคม – เดือนเมษายน แต่ถ้าใครชอบอากาศเย็นกำลังดี ได้เห็นภูเขาชัดๆ สามารถเดินทางได้ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม – เดือนตุลาคมได้เลยค่ะ แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าจะช่วงไหนก็ได้เจอหิมะและได้ชมความงดงามของที่นี่ได้ตลอดทั้งปีไม่มีเบื่อแน่นอนค่ะ

 

ไฮไลท์ภูเขาหิมะมังกรหยกห้ามพลาด

 

  1. จุดชมวิวภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain Glacier Park)

กระเช้าไฟฟ้าของอุทยานจะพาเรามาถึงที่ความสูง 4,506 เมตร ซึ่งจุดนี้เมื่อได้ขึ้นมาถึงก็จะได้เห็นวิวภูเขาหิมะมังกรหยกที่ว่าสวย แต่ยังมีอีกหนึ่งจุดที่ต้องเดินตามทางไม้กระดานต่อขึ้นไปอีก 174 เมตร ก็จะถึงจุดสูงสุดที่นักท่องเที่ยวขึ้นมาได้ นั่นก็คือ “Glacier Park” ที่ความสูง 4,680 เมตร จุดนี้ถ้าใครจะเดินขึ้นมาต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ ด้วยความสูงขนาดนี้ทำให้อากาศด้านบนค่อนข้างเบาบาง แนะนำว่าค่อยๆเดินขึ้นไปสามารถแวะพักตามทางขึ้นไปเรื่อยๆได้ หรือหากมีกระป๋องออกซิเจนติดมาด้วยก็จะดีมาก โดยตลอดระยะทางจนขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเราจะได้เห็นวิวของภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาวนวลปกคลุมอยู่ ตัดกับสีน้ำเงินของท้องฟ้า บอกเลยว่าสวยเกินคำบรรยายจริงๆค่ะ

จุดชมวิวภูเขาหิมะมังกรหยก

 

  1. หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley)

เป็นทะเลสาบกลางหุบเขาที่อยู่อีกด้านหนึ่งในอุทยานเดียวกันกับภูเขาหิมะมังกรหยก ซึ่งน้ำในทะเลสาบคือน้ำที่ละลายมาจากภูเขาหิมะมังนั่นเอง จึงทำให้น้ำบริเวณนี้เป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ ตัดกับวิวภูเขาหิมะมังกรหยกก็ยิ่งสวยสุดๆไปเลย นอกจากความสวยงามแล้วน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ยังมีความเย็นเฉียบตลอดทั้งปีอีกด้วย  แม้กระทั่งในช่วงฤดูร้อนก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิความเย็นในน้ำได้เลยล่ะค่ะ

ภูเขาหิมะมังกรหยก_หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน
ภูเขาหิมะมังกรหยก_หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน

 

  1. ทุ่งหญ้าจามรี (Yak Meadow)

แนะนำอีกหนึ่งพิกัดถ่ายรูปสวย ทุ่งหญ้าจามรี (Yak Meadow) เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก บรรยากาศดี เงียบสงบ ตั้งอยู่บนความสูง 3,650 เมตร สามารถนั่งรถบัสของอุทยานไปขึ้นกระเช้า Yak Level Ground ได้  ทุ่งหญ้าจามรี เป็นทุ้งหญ้าสีเขียวพื้นที่กว้างใหญ่ และอยู่ใกล้งภูเขาหิมะมังกรหยกที่สุด จึงทำให้มองเห็นยอดเขาทั้ง 13 ยอดได้อย่างสวยงาม แถมยังได้เห็นฝูงจามรีกว่าร้อยตัวออกมาเดินเล่นกินหญ้าอีกด้วยนะคะ หากใครมีเวลาเหลือต้องมาเที่ยวถ่ายรูปที่นี่ให้ได้นะคะ

ภูเขาหิมะมังกรหยก_ทุ่งหฯ้าจามรี

 

  1. IMPRESSION LIJIANG 

ลงมาจากเขาแล้ว ยังมีโชว์ IMPRESSION LIJIANG สุดอลังการ โดยผู้กำกับจางอี้โหมว ซึ่งการแสดงนี้ใช้ผู้แสดงกว่า 600 ชีวิต มาร่วมโชว์ร้อง เล่น เต้น รำ พร้อมการแสดงแสงสีเสียง และการแต่งกายที่สวยงาม ซึ่งโชว์นี้จะบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าต่างๆในเมืองลี่เจียง เราจะได้ชมโชว์สุดพิเศษไปพร้อมกับฉากหลังที่สวยงามของภูเขาหิมะมังกรหยก ทำให้โชว์ยิ่งดูอลังการขึ้นไปอีกเลยล่ะค่ะ

 

ภูเขาหิมะมังกรหยก_การแสดงชุด lijiang impression


กลุ่ม-ทัวร์ไฟไหม้-ทัวร์คนโสด

 

ไม่พลาดเรื่องเที่ยว และดีลเด็ด ติดตามยักษ์ทัวร์ได้ทุกช่องทาง

Facebook | yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/1osb9

Instagram | @yaktour_th 👉🏼 https://shorturl.at/sYHiJ

TikTok | @yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/PqCSS

 

อบถามรายละเอียดก่อนจอง

Line Official Account | @yaktour 👉🏼 https://shorturl.at/QDAGI

 

🔍 แนะนำให้อ่าน