ท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในจังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น มีเมืองเล็กแสนสงบชื่อว่า ฮาคุบะ (Hakuba) ที่กลายเป็นจุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยวทั้งสายลุยและสายชิล เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องวิวภูเขาอันยิ่งใหญ่ ลานหิมะระดับโลก และบรรยากาศธรรมชาติที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล

ฮาคุบะ (Hakuba) มีกี่ฤดู?

ฮาคุบะ เป็นเมืองที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะธรรมชาติจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลอย่างสวยงาม โดยแบ่งเป็น 4 ฤดูที่มีเสน่ห์ต่างกัน

1. ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)

ฤดูใบไม้ผลิในฮาคุบะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากหิมะสู่ความเขียวขจี ภูเขาเริ่มเผยสีเขียวของต้นไม้ ดอกซากุระและดอกไม้นานาพันธุ์เริ่มผลิบาน เป็นฤดูที่เงียบสงบ เหมาะกับคนที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ 

อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 5 – 18 องศาเซลเซียส อากาศเริ่มอุ่นขึ้น 

ไฮไลต์ที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมช่วงฤดูใบไม้ผลิ

• บึงฮัปโป (Happo Pond) : จุดชมวิวบนภูเขาที่ตั้งอยู่บนความสูงประมาณ 2,060 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นยอดเขา ฮาคุบะซันซัง (Hakuba Sanzan) สะท้อนในผิวน้ำใสของบึงได้ในวันที่อากาศดี เปิดให้ขึ้นเขาได้ตั้งแต่ ปลายเดือนพฤษภาคม – ต้นมิถุนายน โดยใช้กระเช้า Gondola และ Chairlift แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 1.5 กม.

• อุทยานแห่งชาติสึไกเกะ (Tsugaike Nature Park) : เส้นทางเดินป่าความยาวกว่า 5-6 กิโลเมตร บนพื้นที่ชุ่มน้ำ ไฮไลต์คือการได้ชม พันธุ์ไม้ดอกอัลไพน์ ที่เริ่มบานในช่วงปลายพฤษภาคม เช่น skunk cabbage (mizubasho) เหมาะกับสาย hiking มือใหม่ถึงระดับกลาง

• สวนสาธารณะโออิเดะ (Oide Park) : เป็นจุดชมซากุระยอดฮิตในฮาคุบะ ช่วงต้น – กลางเดือนเมษายน ริมสองฝั่งแม่น้ำฮิเมะคาวะ (Himekawa) จะมีดอกซากุระสีชมพูเรียงรายสวยงาม แถมยังมีภูเขาหิมะเป็นฉากหลังอีกด้วย บรรยากาศดี เงียบสงบ เหมาะกับการเดินเล่นชมธรรมาชติหรือจะถ่ายภาพสวยๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ

2. ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)

ฤดูร้อนในฮาคุบะมีอากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนในเมืองใหญ่ เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายประเภท เช่น เช่น ปีนเขา ปั่นจักรยาน ล่องแก่ง หรือเดินป่า 

อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ ประมาณ 15 – 28 องศาเซลเซียส 

ไฮไลต์สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมช่วงฤดูร้อน

• สวนพฤกษศาสตร์ฮาคุบะโกะริว (Hakuba Goryu Alpine Botanical Garden) 

ตั้งอยู่ด้านบนของ สถานีกระเช้า Alps Daira มีพืชอัลไพน์ (Alpine Plants) มากกว่า 300 ชนิด ไฮไลต์คือดอกไม้หายาก เช่น Komakusa (ดอกไม้ประจำเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น) มีทางเดินไม้ชมวิวแบบสบายๆ ด้านบนมีลานกิจกรรมกลางแจ้ง ที่นั่งเล่นชมวิวพาโนรามา และคาเฟ่เล็กๆ 

• ทะเลสาบอาโอกิ (Lake Aoki) 

 ทะเลสาบสีฟ้าใสขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของฮาคุบะ เป็นที่นิยมสำหรับกิจกรรมทางน้ำ เช่น พายเรือคายัค เรือแคนู ว่ายน้ำ และนั่งปิกนิกริมน้ำ บรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมด้วยภูเขา เหมาะกับคนที่อยากพักผ่อน ที่นี่มีจุดให้เช่าอุปกรณ์ และมีคาเฟ่ริมทะเลสาบ

• เส้นทางเดินป่า (Happo One Nature Trail) 

เส้นทางที่เดินง่าย วิวสวย อากาศเย็นสบายตลอดทาง  ไฮไลต์คือบึงฮัปโป (Happo Pond) ซึ่งเราจะได้เห็นเงาสะท้อนวิวภูเขาหิมะในวันที่ฟ้าเปิด บอกเลยว่าสวยสุดๆ

3. ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)

อากาศจะเริ่มเย็นลงและแห้งสบาย ใบไม้ต้นไม้ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม และแดงสดใส สร้างทิวทัศน์ที่ตระการตามาก และมีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ซันดันโคโย (Sandan Koyo) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ภูเขาและพื้นป่าแสดงสีสัน 3 สีพร้อมกันในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ได้แก่ สีขาวจากหิมะที่เริ่มตกด้านบนยอดเขาสูงก่อนที่อื่น สีแดงเหลืองของใบไม้เปลี่ยนสีที่อยู่กลางเขา และ สีเขียวของต้นไม้ที่ยังไม่เปลี่ยนสีด้านล่าง เกิดจากความต่างของระดับความสูงและอุณหภูมิจนเกิดภาพธรรมชาติที่งดงามให้เราได้ชมกัน ซึ่งสามารถชมได้ที่จุดชมวิว Hakuba Mountain Harbor

อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 – 20 องศาเซลเซียส

ไฮไลต์สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมช่วงฤดูใบไม้ร่วง

• ฮะคุบะ อิวาทะเคะ เมาน์เทน รีสอร์ท (Hakuba Iwatake Mountain Resort) 

นั่งกระเช้ากอนโดล่า Iwatake Gondola Lift ขึ้นไปยังยอดเขา เพื่อชมวิวสวยๆ ของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี แบบพาโนรามา   Yoo-Hoo SWING ชิงช้าขนาดใหญ่ที่แกว่งไปข้างหน้าโดยมีวิวธรรมชาติเป็นฉากหลัง และ Iwatake Green Park สวนบนยอดเขาที่มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำ เช่น Mountain Karting หรือเดินเล่นสบายๆ

ไฮไลท์คือ ระเบียงชมวิว Hakuba Mountain Harbor จุดชมปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ซันดันโคโย (Sandan Koyo) ซึ่งภูเขาและพื้นป่าแสดงสีสัน 3 สีพร้อมกันในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ได้แก่ สีขาวจากหิมะที่เริ่มตกด้านบนยอดเขาสูงก่อนที่อื่น สีแดงเหลืองของใบไม้เปลี่ยนสีที่อยู่กลางเขา และ สีเขียวของต้นไม้ที่ยังไม่เปลี่ยนสีด้านล่าง เกิดจากความต่างของระดับความสูงและอุณหภูมิจนเกิดภาพธรรมชาติที่งดงามให้เราได้ชมกัน

• อุทยานแห่งชาติสึกาอิเคะ (Tsugaike Nature Park) 

ตั้งอยู่ในหมู่บ้านโอตาริ ใกล้หุบเขาฮาคุบะ มีพื้นที่ชุ่มน้ำบนที่ราบสูงระดับ 1,900 เมตร สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปชมธรรมชาติได้สะดวก มีเส้นทางเดินป่ากว่า 6 กิโลเมตร ผ่านดอกไม้หลากชนิดตามฤดูกาล และวิวใบไม้เปลี่ยนสีสุดอลังการในฤดูใบไม้ร่วง เหมาะทั้งสายเดินชิลและสายผจญภัยที่อยากสัมผัสแอลป์ญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด

• บึงน้ำฮัปโป(Happo Pond) 

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงที่สุด สามารถนั่งกระเช้าขึ้นเขาและเดินต่อประมาณ 1.5 กม. เพื่อไปยังบึง ในวันที่อากาศแจ่มใส บึงจะสะท้อนภาพทิวทัศน์ของภูเขาที่เต็มไปด้วยใบไม้สีสันสดใสได้อย่างสวยงาม เหมาะสำหรับการมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่อากาศเย็นสบายและวิวธรรมชาติงามตระการตาสวุดๆ

4. ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)

ฮาคุบะเป็นเมืองหิมะที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงระดับโลกจากการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1998 และมีลานสกีชั้นนำมากกว่า 10 แห่ง จุดเด่นคือหิมะที่ตกหนักและละเอียดนุ่ม หรือที่เรียกว่า “Powder Snow” ซึ่งนักสกีและสโนว์บอร์ดจากทั่วโลกต่างหลงใหล 

อุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงนี้จะอยู่ที่ 0 ถึง -10 องซาเซลเซียส หรืออาจต่ำกว่านั้นในพื้นที่สูง อากาศแห้ง เย็นจัด

ไฮไลต์สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมช่วงฤดูหนาว

• ลานสกีฮาคุบะวัลลีย์ (Hakuba Valley Ski Resorts) 

กลุ่มลานสกีกว่า 10 แห่ง ตั้งอยู่ในหุบเขาฮาคุบะ เช่น Hakuba Happo-One , Hakuba Goryu , Hakuba 47 , Tsugaike Kogen รองรับทั้งมือใหม่จนถึงระดับโปร มีคลาสเรียนสกีและเช่าอุปกรณ์ครบ ไฮไลท์คือ หิมะนุ่มละเอียดเหมาะสำหรับสกีและสโนว์บอร์ด

• นั่งกระเช้าชมวิวหิมะ 

นั่งกระเช้าขึ้นไปชมวิวหิมะบนยอดเขา ถ่ายรูปพาโนรามาสวยๆ ได้ จุดแนะนำคือกระเช้าของ Hakuba Happo-One และ Tsugaike Kogen

• แช่ออนเซ็นกลางหิมะ 

ตะลุยหิมะกันทั้งวันแล้ว ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้แช่ตัวในออนเซ็นกลางแจ้ง ท่ามกลางหิมะขาวโพลน แนะนำที่พักหรือออนเซ็นท้องถิ่น เช่น Obinata no Yu หรือ Hakuba Highland Hotel แช่ออนเซ็นชมวิวหิมะสวยๆ ฟินสุดๆ ไปเลยค่ะ

วิธีเดินทางไปฮาคุบะจากโตเกียวและมัตสึโมโตะ

1. จากโตเกียว (Tokyo) ไปฮาคุบะ

• รถไฟชินคันเซ็น + รถบัสหรือรถไฟท้องถิ่น : (สะดวกและรวดเร็ว)

นั่งรถไฟชินคันเซ็นสาย Hokuriku Shinkansen จาก Tokyo Station ไปยัง Nagano Station (ใช้เวลา ~1.5 ชม.) ต่อรถบัส Alpico Express หรือ Nagano Dentetsu Bus จาก Nagano Station ไปยัง Hakuba (ใช้เวลา ~1 ชม. 15 นาที)

• รถบัสทางไกล (Highway Bus) : (สะดวก ไม่ต้องเปลี่ยนขบวน แต่ใช้เวลานาน)

นั่งรถบัสตรงจาก Shinjuku Bus Terminal (ตั้งอยู่ติดกับสถานี Shinjuku) ไปยัง Hakuba Happo Bus Terminal หรือจุดจอดอื่นๆ ในฮาคุบะ ใช้เวลาประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง

2. จากมัตสึโมโตะ (Matsumoto) ไปฮาคุบะ

• รถไฟท้องถิ่น (Local Train)

นั่งรถไฟ JR Oito Line จากสถานี Matsumoto Station มุ่งหน้าไปทางเหนือสู่ฮาคุบะ

โดยจอดที่สถานีหลักๆ เช่น Hakuba Station ใช้เวลาประมาณ 1- 2 ชั่วโมง 

• รถบัส (ไม่ค่อยนิยม)

มีรถบัสท้องถิ่นจากสถานี Matsumoto Bus Terminal ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Matsumoto ไปยังพื้นที่ฮาคุบะ อาจไม่สะดวกเท่ารถไฟในแง่ของความถี่และระยะเวลาเดินทาง

สรุป : ฮาคุบะ เมืองที่เที่ยวได้ทั้งปี ไม่ว่าฤดูไหนก็สวย

ฮาคุบะไม่ใช่แค่เมืองสกี แต่คือจุดหมายปลายทางที่สามารถกลับมาเยือนได้ในทุกฤดู สายธรรมชาติ สายลุย หรือแม้แต่คนอยากพักผ่อนสบายๆ ก็ต้องหลงรักที่นี่อย่างแน่นอน

อย่าลืมเตรียมกล้องให้พร้อม เพราะไม่ว่าฤดูไหน ฮาคุบะก็พร้อมมอบวิวสุดตะลึงให้คุณกลับบ้านไปพร้อมความประทับใจ

✅ สนใจ ทัวร์ญี่ปุ่น ติดต่อ ยักษ์ทัวร์ เพื่อแพลนการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร!

Line Official Account | @yaktour 👉🏼 https://lin.ee/NLwXWc1

📌 วางแผนเที่ยวเองก็ง่าย หรือจะให้ ยักษ์ทัวร์ พาเที่ยวแบบไม่ต้องเหนื่อยแพลนก็ยิ่งสะดวก

ไม่พลาดเรื่องเที่ยว และดีลเด็ด ติดตามยักษ์ทัวร์ได้ทุกช่องทาง

Facebook | yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/ov7AJ

Instagram | @yaktour_th 👉🏼  https://shorturl.at/2uS64

TikTok | @yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/DMF90

สอบถามรายละเอียดก่อนจอง

Line Official Account | @yaktour 👉🏼 https://shorturl.at/uWfA4

🔍 แนะนำให้อ่าน

• พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2025 เช็กจุดพีคทั่วประเทศ เที่ยวให้ทันช่วงเวลาที่สวยที่สุด