ออกเดินทางไปสัมผัสความงดงามของธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ ที่ จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) อุทยานแห่งชาติกลางหุบเขา หนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติของจีนที่มีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามของน้ำตก ภูเขา ลำธาร และทะเลสาบ บอกเลยว่าทุกคนควรได้ไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต
จิ่วจ้ายโกว แหล่งท่องเที่ยวระดับ A5 ของจีน เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่อยู่ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเฉิงตู 500 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีความหลากหลาย จนได้รับการขนานนามว่าเป็นสวรรค์บนดินที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งใน 4 ฤดูกาลเราก็จะได้เห็นความงดงามของธรรมชาติที่แตกต่างกันไป ใครอยากรู้ว่าจิ่วจ้ายโกว อากาศเป็นอย่างไร ดูข้อมูลตามนี้ได้เลยค่ะ
จิ่วจ้ายโกว อากาศเป็นอย่างไร ?
ก่อนออกเดินทางมาดูกันว่าจิ่วจ้ายโกว อากาศเป็นอย่างไร เที่ยวช่วงไหนดี และจะมีหิมะตกเดือนไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย
ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม)
เป็นช่วงที่จะได้เห็นบรรยากาศใบไม้ ดอกไม้ ผลิบานอีกครั้ง ช่วงนี้ อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 4 – 24 องศาเซลเซียส อากาศดี ช่วงต้นเดือนมีนาคมบางปีอาจจะได้เห็นหิมะที่ยังละลายไม่หมด ปกคลุมอยู่บางๆ บนยอดเขาก็ดูสวยงามไปอีกแบบนึงค่ะ
ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม)
ในช่วงนี้ จิ่วจ้ายโกว จะเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ ผลิบานเต็มที่ วิวทิวทัศน์ที่เราได้เห็นก็จะเป็นสีเขียวสดชื่น และสวยงามมากทีเดียว แถมอากาศก็กำลังสบายๆ โดยอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 15 – 29 องศาเซลเซียส ใครชอบดูธรรมชาติในบรรยากาศที่สดใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใส ต้องมาเที่ยวช่วงนี้เลยค่ะ
ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน – เดือนตุลาคม)
ช่วงนี้อากาศจะเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ 9 – 23 องศาเซลเซียส ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี เราจะได้เห็นใบไม้สีส้ม แดง เหลือง เต็มไปทั่วทั้งภูเขา สวยงาม มากๆ ยิ่งสีสันของใบไม้ตัดสะท้อนกับสีมรกตของทะเลสาบ บอกเลยว่าสวยสมคำเล่าลือจริงๆ
ฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์)
ช่วงฤดูหนาว จิ่วจ้ายโกว จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ น้ำตกและทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง อากาศหนาวเย็นอุณหภูมิติดลบ อยู่ที่ประมาณ -2 – 14 องศาเซลเซียส ช่วงนี้เราจะได้เห็นวิวสวยงามแปลกตากว่าช่วงอื่นเพราะทะเลสาบสีมรกตจะอยู่ท่ามกลางต้นไม้ที่เป็นสีขาวจากหิมะ สวยงามเหมือนภาพวาดเลยค่ะ
จิ่วจ้ายโกว หิมะตกเดือนไหน
สำหรับใครที่ชอบความหนาวเย็นและอยากมาสัมผัสหิมะที่ จิ่วจ้ายโกว แน่นอนว่าต้องมาช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงนี้อุณหภูมิถึงกับติดลบอากาศหนาวเย็น มีหิมะตก จนทำให้น้ำในน้ำตกและทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็งเลยทีเดียว ใครมาเที่ยวช่วงนี้ต้องเตรียมร่างกายมาให้พร้อม และควรใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพื่อป้องกันความหนาว และช่วยให้ร่างกายอบอุ่น แถมยังได้ถ่ายรูปใส่ชุดกันหนาวสวยๆ กับวิวหิมะตก ได้รูปสวยถูกใจแน่นอนค่ะ
7 ไฮไลท์ที่เที่ยวในจิ่วจ้ายโกว
1. ทะเลสาบห้าสี (Five Flower Lake)
เป็นทะเลสาบที่มีวิวสวยที่สุด ด้วยความสวยงามในการไล่ระดับสีของน้ำในทะเลสาบ โดยไล่ระดับจากเฉดสีฟ้าไปจนถึงสีเขียว และน้ำก็ใสจนเห็นไปถึงพื้นทะเลสาบเลยทีเดียว ซึ่งสีของน้ำทะเลสาบที่เราเห็นกันอยู่นี้เกิดจากแคลเซียมคาร์บอเนตและพืชน้ำชนิดต่างๆ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็จะสวยงามเป็นพิเศษ จนใครๆ ยกให้เป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในจิ่วจ้ายโกวเลยค่ะ
2. ทะเลสาบกระจก (Mirror Lake)
ด้วยความสวยงามของเงาต้นไม้ ภูเขาและท้องฟ้า ที่สะท้อนกับผืนน้ำใสของทะเลสาบ จนทำให้ได้ชื่อว่า ทะเลสาบกระจก นั่นเองค่ะ ต้องบอกเลยว่าจุดนี้ถ่ายรูปออกมาสวยมาก วันไหนมีแสงแดดอ่อนๆ สาดลงมาก็จะยิ่งสวยงามเป็นพิเศษ
3. ทะเลสาบยาว (Long Lake)
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานจิ่วจ้ายโกว มีต้นสนซีดาร์ทั่วภูเขาล้อมรอบทะเลสาบ ที่มีความยาวกว่า 7 กิโลเมตร และมีพื้นที่กว่า 581 ไร่ โดยทะเลสาบจะมีรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว มีน้ำเป็นสีฟ้าสวยงาม ซึ่งน้ำในทะเลสาบแห่งนี้มาจากหิมะบนภูเขาที่ละลายลงมา บอกได้คำเดียวว่าที่นี่สวย บรรยากาศดีมาก ถ้าใครได้มาจะต้องตกหลุมรักแน่นอน
4. น้ำตกธารไข่มุก (Pearl Shoals Waterfall)
อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ในจิ่วจ้ายโกว มีอีกชื่อว่า น้ำตกนู่รือหลาง ในภาษาทิเบตแปลว่า ยิ่งใหญ่และอัศจรรย์ เป็นน้ำตกธารหินปูนที่มีรูปทรงเป็นรูปพัดจีน ไหลผ่านถ้ำลำธารน้อยใหญ่มีสายน้ำทอดยางลดหลั่นกันมา สวยงามเหมือนกับเส้นไข่มุก มีความสูง 40 เมตร และกว้าง 310 เมตร ที่นี่เคยเป็นจุดที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องไซอิ๋วด้วยนะคะ ใครอยากรู้ว่าสวยแค่ไหนต้องมาดูด้วยตาตัวเองแล้วล่ะ
5. หมู่บ้านซูเจิง (Shuzheng Village)
หมู่บ้านเก่าแก่ของชาวทิเบต เป็นหนึ่งใน 9 หมู่บ้านแห่งจิ่วจ้ายโกว ตั้งอยู่ในหุบเขาซู่เจิ้ง ด้านหลังหมู่บ้านคือ ภูเขา Dagomen มีเจดีย์เก้าองค์ประดิษฐานอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นตัวแทนของความสามัคคี และความสงบสุข ที่นี่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามมาก มีทั้งน้ำตกซูเจิง (Shuzheng Waterfall) และทะเลสาบซูเจิง (Shuzheng Lake) เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ
6. ทะเลสาบนกยูง (Peacock Lake)
ด้วยน้ำในทะเลสาบที่เป็นสีสีฟ้าและใสเหมือนกับคริสตัล โดยไล่เฉดสีฟ้าเข้มสลับอ่อนขึ้นอยู่กับความลึกของน้ำ บวกกับรูปร่างของทะเลสาบที่คล้ายกับนกยูง จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบนกยูงนั่นเอง ใครได้มาเที่ยวจิ่วจ้ายโกวในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะได้เห็นใบไม้ที่ร่วงลงและกระจายออก ดูเหมือนกับนกยูงที่กำลังรำแพนหางสวยงามมากเลยทีเดียวค่ะ
7. ทะเลสาบแรด (Rhino Lake)
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองในอุทยานจิ่วจ้ายโกวรองจากทะเลทะเลสาบยาว ในช่วง ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อนทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกต บรรยากาศรอบๆก็จะเป็นสีเขียวดูสดชื่น ในฤดูใบไม้ร่วงที่นี่ก็จะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี โดยนน้ำในทะเลสาบใสสะท้อนวิวธรรมชาติรอบอย่างสวยงาม
สำหรับใครที่ชอบธรรมชาติบอกเลยว่า จิ่วจ้ายโกว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์มาก เพราะไม่ว่าจะมาเที่ยวฤดูไหนก็จะได้เห็นเสน่ห์ของธรรมชาติต่างกันไปดูยังไงก็ไม่มีเบื่อเลยล่ะค่ะ และหากสนใจอยากพาเพื่อนๆ หรือ ครอบครัว ไปเที่ยวพักผ่อน เปลี่ยนบรรยากาศ ให้ธรรมชาติบำบัดจิตใจแบบนี้แล้วละก็ วางแพลนเที่ยวแล้วมาจอง โปรแกรมทัวร์จิ่วจ้ายโกวกับยักษ์ทัวร์ ได้เลย
ไม่พลาดเรื่องเที่ยว และดีลเด็ด ติดตามยักษ์ทัวร์ได้ทุกช่องทาง
Facebook | yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/1osb9
Instagram | @yaktour_th 👉🏼 https://shorturl.at/sYHiJ
TikTok | @yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/PqCSS
สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
Line Official Account | @yaktour 👉🏼 https://shorturl.at/QDAGI
🔍 แนะนำให้อ่าน