วัน-เวลาทำการ :
จันทร์ - ศุกร์ 10.00-19.00 น.

เบอร์โทรติดต่อ :
02-077-8252 086-408-9824 ,

Nikko นิกโก้ เที่ยวเต็มอิ่มชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เมืองมรดกโลก

กันยายน 30, 2024 | by Yaktour

nikko ใบไม้เปลี่ยนสี

 

เข้าสู่ช่วงชมใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่นแล้ว และแน่นอนว่า Nikko (นิกโก้) เป็นหนึ่งในสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น โดยในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เมืองนี้จะถูกปกคลุมด้วยสีสันสดใสของใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากธรรมชาติที่งดงามแล้ว Nikko ยังเป็นเมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าอีกด้วย วันนี้ยักษ์ทัวร์ขอพาทุกท่านไปดูช่วงเดือนที่เหมาะสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสี ชมที่ไหนดี ตามมาดูกันในบทความนี้ได้เลย


เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม แล้วมุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่น! สัมผัสหิมะและความสวยงามน่ารักของเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ไปกับ Yaktour ที่จะพาออกเดินทางง่ายๆ เพราะออกแบบโปรแกรมเดินทาง และพาเที่ยวครบ ดูแลอย่างดีตลอดทริป ! พบกับโปรโมชั่นแอดไลน์ครั้งแรก รับส่วนลด 500 บาททันที

 

add-line-get-promotion

 

 

Nikko นิกโก้ ชมใบไม้เปลี่ยนสี เที่ยวเดือนไหนดี?

นิกโก้สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากสวยงามและมีเสน่ห์ในทุกฤดูกาล

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)

ในช่วงนี้นิกโก้จะเต็มไปด้วยความงามของดอกไม้ที่บานสะพรั่ง โดยเฉพาะซากุระ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้อากาศยังเย็นสบาย ช่วงนี้เหมาะสำหรับการเดินเล่น ชมเมืองและธรรมชาติ

ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)

แม้ว่าฤดูร้อนของญี่ปุ่นจะค่อนข้างร้อน แต่ในนิกโก้อากาศเย็นสบายเนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขา เหมาะกับการเดินป่า และเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติ Nikko เพราะต้นไม้เขียวชะอุ่ม ท้องฟ้าปลอดโปร่ง น้ำตกมีน้ำเยอะ ทิวทัศน์จึงสวยงามมากๆ

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)

ฤดูใบไม้ร่วง เป็นช่วงเวลายอดนิยมในการเที่ยว Nikko เพราะใบไม้ของต้นไม้น้อยใหญ่เปลี่ยนสีจากเขียวเป็นเหลือง แดง และส้มทำให้ทัศนียภาพที่ Nikko สวยงามมากที่สุด โดยใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนจนถึงเดือนพฤศจิกายน จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ และน้ำตกเคง่อน

ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)

ฤดูหนาวนิกโก้จะหนาวเย็นและมีหิมะตก ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศเงียบสงบและมีมนต์เสน่ห์อย่างมาก ด้วยใบไม้และภูเขาถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว สวยงามแตกต่างจากฤดูอื่นมากๆ เลยค่ะ

 

7 จุดยอดจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ Nikko นิกโก้

 

  1. ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine)

เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีความสำคัญและโด่งดังที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1617 เพื่ออุทิศให้แก่โชกุนโทกุกาวะ อิเอยาสุ (Tokugawa Ieyasu) ผู้ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนโทกุกาวะ ซึ่งปกครองญี่ปุ่นยาวนานกว่า 250 ปี ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้รอบศาลเจ้าเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นเหลือง แดง และส้ม เพิ่มความงดงามให้กับสถาปัตยกรรมโบราณและการแกะสลักที่วิจิตรของวัดนี้อย่างมากค่ะ

เที่ยว_nikko_ศาลเจ้าโทโชกุ

  1. น้ำตกเคง่อน (Kegon Waterfall)

หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดและเป็นหนึ่งในสามน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาตินิกโก้ (Nikko National Park)  มีความสูงประมาณ 97 เมตร (318 ฟุต) น้ำตกเคง่อนเกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟนันไต (Mount Nantai) เมื่อหลายพันปีก่อน  มีลักษณะเป็นน้ำตกที่ไหลจากทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji) ลงมาจากหน้าผาหินลาวา ทำให้เกิดภาพที่สวยงามอลังการ โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้รอบๆ น้ำตกจะเปลี่ยนเป็นสีสันสวยงามอลังการจนได้รับความนิยมในมุมของจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุด และที่นี่เรายังสามารถขึ้นลิฟต์ไปยังจุดชมวิวเพื่อเห็นภาพทั้งหมดในมุมสูงได้ด้วยนะคะ

เที่ยว_nikko_น้ำตกเคง่อน

 

  1. ทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji)

ทะเลสาบชูเซ็นจิตั้งอยู่ใกล้น้ำตกเคง่อน เป็นทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าไม้สีสันสดใสในฤดูใบไม้ร่วง ทะเลสาบชูเซ็นจิเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 20,000 ปีที่แล้วจากการระเบิดของภูเขาไฟนันไต พื้นที่ประมาณ 11.62 ตารางกิโลเมตร และมีความลึกสูงสุดประมาณ 163 เมตร ทำให้เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นิยมแห่งหนึ่ง เพราะต้นไม้เปลี่ยนสีรอบทะเลสาบ เป็นทิวทัศน์ที่สวยมากๆ เลยค่ะ

 

เที่ยว_nikko_น้ำตกซูเซ็นจิ

 

  1. เส้นทาง Irohazaka (Irohazaka Winding Road)

เส้นทางนี้เป็นถนนคดเคี้ยวที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองนิกโก้กับพื้นที่รอบทะเลสาบชูเซ็นจิ เส้นทางนี้เป็นที่รู้จักในฐานะจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี โดยเราสามารถเพลิดเพลินกับการขับรถผ่าน หรือนั่งรถบนเส้นทางที่ล้อมรอบด้วยใบไม้สีแดงและเหลือง 

เที่ยว_nikko_เส้นทางIrohazaka

 

  1. วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)

วัดรินโนจิเป็นวัดสำคัญในเมืองนิกโก้เป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 8 โดยนักบวชโชโด โชนิน (Shodo Shonin) ผู้ที่ได้นำศาสนาพุทธนิกายเทนไดเข้าสู่ภูมิภาคนิกโกะ วัดนี้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานความเชื่อในพลังของธรรมชาติและภูเขา ซึ่งเป็นจุดศักดิ์สิทธิ์และสถานที่ที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เงียบสงบ สวนรอบๆ วัดจะเปลี่ยนเป็นสีสันสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ทำให้การเดินชมวัดนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย

เที่ยว_nikko_วัดรินโนจิ

  1. สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge)

สะพานชินเคียวเป็นสะพานสีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของนิกโก้ ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำดะยะ (Daiya River) ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง สะพานนี้จะถูกล้อมรอบด้วยใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม และสร้างทัศนียภาพที่โดดเด่น ต้องไม่พลาดมาถ่ายภาพที่นี่กันนะคะ

เที่ยว_nikko_สะพานชินเคียว

  1. ยุนนิชิกาวะ ออนเซ็น (Yunishigawa Onsen)

ที่สุดท้ายไปแช่ออนเซ็นกันที่ ยุนนิชิกาวะ ออนเซ็น หมู่บ้านน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียง ในเมืองนิกโก้ที่นี่มีบรรยากาศเงียบสงบที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ ก่อตั้งขึ้นในยุคคามาคุระ (Kamakura period) โดยกลุ่มไทระ (Taira clan) ที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอตฮิตมาก แต่คุ้มค่าที่จะมา เพราะเราจะได้แช่น้ำพุร้อนบำบัดความเหนื่อยล้าไปพร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบๆ ค่ะ

เที่ยว_nikko_ยุนนิชิกาวะ_ออนเซ็น


 

กลุ่ม-ทัวร์ไฟไหม้-ทัวร์คนโสด

 

ไม่พลาดเรื่องเที่ยว และดีลเด็ด ติดตามยักษ์ทัวร์ได้ทุกช่องทาง

Facebook | yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/1osb9

Instagram | @yaktour_th 👉🏼 https://shorturl.at/sYHiJ

TikTok | @yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/PqCSS

 

อบถามรายละเอียดก่อนจอง

Line Official Account | @yaktour 👉🏼 https://shorturl.at/QDAGI

 

🔍 แนะนำให้อ่าน