เที่ยวญี่ปุ่น พาหลีกหนีความวุ่นวายแล้วไปชิลกันที่ ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลก ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาในจังหวัดกิฟุ พาไปสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ทั้งสถาปัตยกรรมเก่าแก่ รูปแบบบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ แถมยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติที่งดงามมีแม่น้ำไหลผ่าน อากาศก็ดี มุมถ่ายรูปสวยๆเพียบ อย่ารอช้าเรามาดูกันค่ะว่า หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ควรไปดือนไหน เดินทางยังไง และมีอะไรให้เที่ยวบ้าง
ชิราคาวาโกะ อากาศแต่ละฤดู และหิมะตกเดือนไหน
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ที่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลย และแต่ละฤดูก็จะสวยต่างกันออกไป แต่ในช่วงฤดูหนาวนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันเยอะมาก เนื่องจากอากาศจะหนาวเย็น บรรยากาศดี แถมยังมีหิมะให้เล่นอีกด้วย
- ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – พฤษภาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 13 – 25 องศา ช่วงนี้อากาศเย็นสบายกำลังดี พอถึงช่วงกลางถึงปลายเดือนเมษายนจะเป็นช่วงที่ชิราคาวาโกะ เต็มไปด้วยต้นซากุระสีชมพูที่ดอกกำลังบานสะพรั่ง ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวยทุกมุมแน่นอนค่ะ
- ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน – สิงหาคม) จะเป็นช่วงที่หมูาบ้านเต็มไปนาขาว ต้นไม้เขียวขจี ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิประมาณ 27 – 33 องศา ถึงจะเป็นฤดูร้อนแต่อากาศก็ยังไม่ร้อนเท่าเมืองไทย ช่วงต้นฤดูอาจจะมีฝนตกบ้าง
- ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน – พฤศจิกายน) อุณหภูมิประมาณ 10 – 18 องศา เป็นช่วงที่อากาศจะเริ่มกลับมาเย็นขึ้น ต้นไม้ ใบไม้ทั่วทั้งหมู่บ้านจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง เหลือง ส้ม เต็มไปหมด ถือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
- ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์) ถือเป็นช่วงไฮไลท์ของ ชิราคาวาโกะ เลยก็ว่าได้ โดยอุณหภูมิประมาณ -10 ถึง 0 องศา ช่วงนี้ทั่วทั้งหมู่บ้านและภูเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว มาพร้อมกับอากาศที่หนาวเย็บจับใจ และยังเป็นช่วงที่มีเทศกาลแสดงไฟหมู่บ้านชิราคาวาโกะอีกด้วยค่ะ
ชิราคาวาโกะ มีอะไรน่าเที่ยว
1. บ้านทรงโบราณคันดะ (Kanda House)
บ้านทรงโบราณคันดะ (Kanda House) ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม โดยภายในจะมีห้องต่างๆ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ของเจ้าของบ้านตั้งแต่สมัยก่อน เพื่อให้เราได้สัมผัสถึงวามเป็นอยู่ของผู้คนในยุคนั้น แต่ลักษณะของบ้านจะมีความเรียบหรูกว่าบ้านอื่น เป็นเพราะเจ้าของบ้านเดิมเป็นคนค่อนข้างมีฐานะนั่นเองค่ะ
2. บ้านโบราณสามหลัง (Shirakawago Three Houses)
เป็นบ้านญี่ปุ่นโบราณสไตล์กัสโซซึคุริซึ่งตั้งอยู่สามหลังติดกัน ที่นี่จะมีความสวยงามในแต่ละฤดูกาลต่างกันออกไป อย่างช่วงฤดูร้อนหน้าบ้านก็จะเต็มไปด้วยทุ่งนาเขียวชอุ่ม ส่วนช่วงฤดูเก็บเกี่ยวทุ่งนาจะเป็นสีเหลืองทองอร่ามสวยงาม ถ้าเข้าสู่ฤดูหนาวทุกพท้นที่ก็จะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว บ้านโบราณสามหลังนี้นับเป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิตของชิราคาวาโกะเลยก็ว่าได้
3. หมู่บ้านโอกิมาจิ (Ogimachi)
เที่ยวกันต่อที่ หมู่บ้านโอกิมาจิ (Ogimachi) หมู่บ้านที่มีใหญ่ที่สุดในชิราคาวาโกะ เป็นบ้านของชาวนายุคโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี หมู่บ้านแห่งนี้มีความสวยและโดดเด่นเนื่องจากเป็นแบบ กัสโชสึคุริ (Gassho-zukuri) หรือเรียกว่าเป็นบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม โดยคำว่า กัสโช (Gassho) แปลว่า พนมมือ จะเห็นได้ว่าลักษณะหลังคาบ้านเป็นรูปทรงเหมือนพนมมืออยู่นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีบ้านหลายหลังที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงมีศาลเจ้า และที่พักโฮมสเตย์อีกด้วย มาเที่ยวที่เดียวจมีครบทุกอย่างเลยค่ะ
4. วัดเมียวเซนจิ (Myozen-ji Temple)
อีกหนึ่งสถานที่ที่ยังคงความเก่าแก่ไว้ให้เราได้สัมผัส คือ วัดเมียวเซนจิ (Myozen-ji Temple) วัดแห่งนี้อยู่ทางเหนือของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ มีความแตกต่างจากวัดอื่นเนื่องจากสร้างโดยสถาปัตยกรรมสไตล์กัสโซซึคุริ และด้วยความที่ในอดีตเคยเป็นที่พักของพระสงฆ์ที่เดินทางผ่านไปผ่านมาหรือมาพักอยู่ประจำ จึงทำให้ปัจจุบันยังมีสิ่งของเครื่องใช้เหล่านั้นคงเหลืออยู่และถูกรักษาไว้ในสภาพดีให้เราได้ชมกัน เรียกว่าเป็นวัดที่สวยงามมีเอกลักษณ์และหาชมได้ยากมากในญี่ปุ่น
5. ศาลเจ้าชิราคาวะ ฮะจิมัน (Shirakawa Hachiman Shrine)
พาไปสักการะสิ่งศักดิ์ที่ ศาลเจ้าชิราคาวะ ฮะจิมัน (Shirakawa Hachiman Shrine) เป็นศาลเจ้าเก่าแก่เพียงแห่งเดียวในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ มีรูปแบบเรียบง่ายใช้สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม บริเวณโดยรอบมีธรรมชาติทำให้มีความร่มรื่นมากๆ นักท่องเที่ยวสามารถแวะเข้ามากราบไหว้ขอพรและเที่ยวชมหอผลิตสาเกโดบุโรคุ (Doburoku) ซึ่งเป็นสาเกที่หมักจากข้าวในหมู่บ้าน ในเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปีที่นี่จะมีการจัดเทศกาลสาเกด้วยนะคะ ใครอยากชิมสาเกของที่นี่ต้องมาช่วงนี้เลยค่ะ
6. จุดชมวิวเท็นชุคาคุ (Tenshukaku Observatory)
ปิดท้ายด้วยการไปชมวิวมุมสูงที่ จุดชมวิวเท็นชุคาคุ (Tenshukaku Observatory) ซึ่งอยู่บนเนินเขาใกล้หมู่บ้าน ในจุดนี้เราจะได้เห็นวิวมุมสูงแบบพาโนราม่ากันไปเลย และช่วงฤดูหนาวหิมะตกตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับก็ยิ่งดูสวยงามสุดๆ เลยล่ะค่ะ โดยการเดินทางมายังจุดชมวิวเท็นชุคาคุ จะมีบริการรถรับ-ส่ง หรือใครอยากจะเดินเล่นชมวิวไปเรื่อยๆก็ได้นะคะ รับรองพอขึ้นไปถึงเห็นวิวสวยๆ หายเหนื่อยแน่นอน
การเดินทางไปชิราคาวาโกะ (เดินทางจากโตเกียว)
- รถประจำทาง : จากโตเกียวต้องเดินทางไปโทยามะก่อน แล้วมานั่งรถบัส Nohi เพื่อเดินทางต่อไปยังชิราคาวาโกะ แต่การนั่งรถบัสประจำทางจะเป็นวิธีที่ประหยัด แต่ใช้ระยะเวลาในการเดินทางนานกว่าแบบอื่น เพราะต้องนั่งรถบัสนานถึง ถึง 7 ชั่วโมง เลยทีเดียว จากนั้นเดินทางด้วยรถบัสจากโทยามะไปยังชิราคาวาโกะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง
- รถไฟ : จากโตเกียวสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นโฮคุริโกะไปยังเมืองโทยามะได้ โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถบัส Nohi ไปยังชิราคาวาโกะ
- ซื้อแพ็คเกจทัวร์ : เพื่อความสะดวกสบายสามารถซื้อแพ็คเกจทัวร์ญี่ปุ่น โอซาก้า โตเกียว ชิราคาวาโกะ เพียงเท่านี้ก็มาเที่ยวได้โดยไม่ต้องวุ่นวายใจแล้วค่ะ เพราะในโปรแกรมทัวร์เค้าจะพามาเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะโดยรถที่ทางทัวร์จัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ชิราคาวาโกะ ดูเหมือนจะเป็นแค่หมู่บ้านเล็กๆ แต่ในหมู่บ้านก็มีอะไรที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของบ้านโบราณ และดื่มด่ำกับบรรยากาศญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และไม่ว่าจะไปฤดูไหนก็สวยไม่แพ้กันเลย อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง รับรองไม่ผิดหวัง
ไม่พลาดเรื่องเที่ยว และดีลเด็ด ติดตามยักษ์ทัวร์ได้ทุกช่องทาง
Facebook | yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/1osb9
Instagram | @yaktour_th 👉🏼 https://shorturl.at/sYHiJ
TikTok | @yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/PqCSS
สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
Line Official Account | @yaktour 👉🏼 https://shorturl.at/QDAGI
🔍 แนะนำให้อ่าน