เที่ยวญี่ปุ่น ชมภูเขาไฟฟูจิ แนะนำให้ไป คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) คืออีกหนึ่งจุดสำหรับชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุด ที่นี่เต็มไปด้วยความธรรมชาติที่สวยงาม อากาศที่สดชื่น เย็นสบาย และรอบๆ ทะเลสาบยังมีสถานที่เที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจอีกด้วย วันนี้ ยักษ์ทัวร์ จะพาทุกคนไปเที่ยวชมความงามของที่นี่กันค่ะ
ทำความรู้จัก คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)
คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) เป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในทะเลสาบทั้งห้าของภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Five Lakes) ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะเดินทางง่าย อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว ใช้เวลาประมาณเดินทาง 2-3 ชั่วโมงก็ถึง และยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะการชมภูเขาไฟฟูจิสะท้อนน้ำในทะเลสาบ ที่สำคัญที่นี่อยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด เราจึงสามารถชมภูเขาฟูจิอย่างได้ชัดเจน
เราสามารถนั่งรถบัส หรือ ปั่นจักรยาน ไปตามถนนเลียบทะเลสาบเพื่อชมความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิได้ตลอดเส้นทาง หรือจะล่องเรือในทะเลสาบคาวากุจิโกะเพื่อชมวิวภูเขาฟูจิและธรรมชาติรอบข้างได้ด้วยนะคะ
ใครที่อยากมาที่นี่สามารถมาเที่ยวแบบวันเดย์ทริป หรือใครอยากเที่ยวแบบเต็มอิ่มจะพักที่นี่สักคืนสองคืนก็ได้เหมือนกัน ที่พักบางแห่งของที่นี่วิวสวยงาม เพราะเราสามารถมองเห็นน้องฟูจิซังตั้งแต่ตื่นนอนเลย แนะนำให้หาข้อมูลและจองที่พักมาให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทางค่ะ
พยากรณ์อากาศ คาวากุจิโกะ เช็กให้ชัดก่อนเดินทาง
ประเทศญี่ปุ่นมีทั้งหมด 4 ฤดู โดยในแต่ละฤดู คาวากุจิโกะ ก็จะมีความสวยงามและมีเสน่ห์ต่างกันไป ตามนี้
1. ฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเยอะมาก เพราะช่วงเดือนเมษายนจะเป็นมีเทศกาลชมดอกซากุระฟูจิ – คาวากุจิโกะ ที่นี่เต็มไปด้วยต้นซากุระผลิดอกบาน ตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟสวยงาม ช่างเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกมากเลยค่ะ
2. ฤดูร้อน ช่วงปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม จะมีการจัด เทศกาลคาวากุจิโกะเฮิร์บ โดยทั่วทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยดอกลาเวนเดอร์สีม่วงตลอดชายฝั่งสวยงามมากทีเดียว
3. ฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน โดยตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนไปตลอดทั้งเดือน จะมีการจัด เทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่ฝั่งทิศเหนือของทะเลสาบ ถือเป็นอีกช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันเยอะมาก
4. ฤดูหนาว เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมภูเขาไฟฟูจิ เราจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิที่มีหิมะปกคลุมสวยงาม ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งแล้วละค่ะ
เคล็ดลับการดูพยากรณ์อากาศ คาวากุจิโกะ
เนื่องจากสภาพอากาศมีผลต่อการชมภูเขาไฟฟูจิมาก ถ้าหากวันไหนอากาศไม่เป็นใจอาจจะมีเมฆบังทำให้มองไม่เห็นภูเขาไฟฟูจิ แนะนำให้เช็กสภาพอากาศรายวันโดยเช็คจากหลายๆ เว็บประกอบกัน เช่น accuweather , ventusky , JMA (กรมอุตุฯของญี่ปุ่น) , jnto ให้ดูที่เป็นรูปพระอาทิตย์อย่างเดียวเท่านั้น ห้ามมีรูปก้อนเมฆเด็ดขาด และถ้าเราวางแพลนไปเที่ยวแต่สภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการชมวิวภูเขาไฟฟูจิของเรา ก็ไม่เป็นไรนะคะ เพราะที่เที่ยวคาวากุจิโกะยังมีอีกมากมานแถมมีกิจกรรมน่าสนใจให้ทำอีกด้วย จะมีอะไรบ้างนั่นติดตามได้เลยค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวใน คาวากุจิโกะ
เจดีย์ชูเรโต (Chureito Pagoda)
แนะนำที่เที่ยวคาวากุจิโกะที่แรก เจดีย์ชูเรโต (Chureito Pagoda) เป็นเจดีย์สีแดง 5 ชั้น มีความสูง 19.5 เมตร ตั้งอยู่ในสวนอาราคุรายามะเซ็นเก็น มีสถาปัตยกรรมซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก วัดชิเทนโนจิ จังหวัดโอซาก้า เราจะต้องเดินขึ้นบันไดไป 400 ขั้นเพื่อไปชมความสวยงามของเจดีย์ นอกจากนี้ยังได้เห็นวิวเมืองจากมุมสูง และที่สำคัญจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังด้วยนะคะ ใครชอบดูวิวสวยๆ หรือ ถ่ายรูป ห้ามพลาดเลยค่ะ
สวนโออิชิ (Oishi Park)
พาเที่ยว คาวากุจิโกะ ที่ถัดมา สวนโออิชิ (Oishi Park) เป็นสวนริมทะเลสาบที่ปลูกดอกไม้ตามฤดูกาลตลอดปี สวนแห่งนี้นอกจากจะมีดอกไม้สวยๆให้ชมแล้วเรายังได้เห็นสวนดอกไม้ที่มีวิวภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังด้วยนะคะ ยิ่งในเดือนมิถุนายนจนถึงกรกฎาคมเราจะได้เห็นทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงสวยงามมากทีเดียวค่ะ ใครอยากได้รูปภูเขาไฟฟูจิที่ถูกล้อมรอบไปด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม แนะนำให้มาที่สวนโออิชิเลยค่ะ
Mt. Fuji Panorama Ropeway
นั่งกระเช้าลอยฟ้า Mt. Fuji Panorama Ropeway เพื่อขึ้นไปชมวิวมุมสูงของทะเลสาบคาวากุจิโกะ และชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งกระเช้าโรปเวย์นี้จะพาเราขึ้นไปสู่ภูเขาเท็นโจโดยมีระยะทาง 400 เมตร และมีจุดชมวิวแบบพาโนราม่าในระดับความสูงถึง 1,075 เมตรจากระดับน้ำทะเลเลยทีเดียว บอกเลยว่าสูงมากๆ
หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค (Oshino Hakkai)
พลาดไม่ได้เลยพิกัดนี้ หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค (Oshino Hakkai) หรือ หมู่บ้านน้ำใส เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมร่วมกับบริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิ หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบคาวากุจิโกะ เป็นอีกหนึ่งจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามและเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอีกด้วย
สถานีรถไฟคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station)
หนึ่งในจุดชมภูเขาไฟฟูจิและเป็นมุมถ่ายสุดชิคที่ใครมาก็ต้องถ่ายมุมนี้ สถานีรถไฟคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station) ลงรถไฟปุ๊บเห็นฟูจิซังปั๊บเลยค่ะ ถ้าถ่ายรูปจุดนี้เราจะได้รูปสถานีรถไฟที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังบอกเลยว่าสวยจึ้งไปเลยค่ะ แนะนำให้เดินไปถ่ายรูปตรง LAWSON มุมไฮไลท์ที่ใครมาก็ต้องถ่ายเช่นกันค่ะ มุมนี้คนจะเยอะหน่อยนะคะอาจต้องรอคิวถ่ายรูปกันนินนึง แต่รับรองได้รูปสวยเก๋กลับไปลง IG แน่นอน
สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji–Q Highland)
มาสนุกกันต่อที่ สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji–Q Highland) อยู่ทางตอนใต้ของทะเลสาบคาวากูจิโกะ สวนสนุกแห่งนี้นอกจากจะมีเครื่องเล่นที่สนุกสุดมันส์แล้วยังได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิสวยๆได้อย่างชัดเจนอีกด้วยนะคะ ที่นี่จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและต่างชาติเป็นอย่างมาก แถมการเข้าสวนสนุกยังไม่มีค่าเข้าอีกด้วย ใครชอบความตื่นเต้นหรือชอบกิจกรรม Adventureต้องห้ามพลาดเลยนะคะ
พิพิธภัณฑ์ป่าแห่งเสียงดนตรี (Kawaguchiko Music Forest Museum)
ใครรักในเสียงดนตรีต้องมาที่นี่ พิพิธภัณฑ์ป่าแห่งเสียงดนตรี (Kawaguchiko Music Forest Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ทางเหนือทะเลสาบคาวากูจิโกะ ที่นี่จัดแสดงเครื่องดนตรีจากต่างประเทศไว้มากมายหลายรูปแบบ ข้างในจะถูกจัดแบ่งไว้เป็นโซนๆ คล้ายหมู่บ้านเล็กๆ ที่สามารถเดินเที่ยวชมได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังมีการแสดงร้องโอเปร่าสดๆ โดยประสานเสียงไปกับเครื่องบรรเลงดนตรีอัตโนมัติ จัดแสดงเป็นรอบๆ ตลอดวันด้วยนะคะ
ล่องเรือชมทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Ensoleille Sailing)
ปิดท้ายด้วยการพาไป ล่องเรือชมทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Ensoleille Sailing) เราจะได้เพลิดเพลินไปกับการชมวิวทิวทันศ์ของภูเขาไฟฟูจิจากในทะเลสาบได้อย่างสวยงาม บรรยากาศดี วิวสวย เต็มสิบไม่หักเลยค่ะ เรือสำราญนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีทั้งโต๊ะและโซฟาให้ได้นั่งพักผ่อนกินลมชมวิวได้แบบสบายๆ ตรงส่วนท้ายของเรือมีทางสำหรับเข็นรถวีลแชร์ได้สะดวกสุดๆ แถมยังสามารถนำสัตว์เลี้ยงมาได้ด้วยนะคะ ยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ มาเที่ยวล่องเรือทั้งทีใครอยากอัปรูปสวยๆลงโซเชียลมิเดียบนเรือเค้ามีบริการ Wi-Fi ฟรีให้อีกด้วย สุดยอดจริงๆ สุดกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่ะ
วิธีการเดินทางจากโตเกียวไปคาวากุจิโกะ
การเดินทางจากโตเกียวไปยังทะเลสาบคาวากุจิโกะ สามารถเดินทางโดยนั่งรถไฟ หรือรถบัสได้ดังนี้
รถไฟ
- รถไฟด่วนพิเศษ ขบวน Fuji Excursion เป็นรถไฟสายด่วนพิเศษวิ่งตรงจากสถานีชินจูกุสู่สถานีคาวากุจิโกะ โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งในวันธรรมดาให้บริการ 4 เที่ยวต่อวัน (ไป-กลับ) และวันเสาร์-อาทิตย์ ให้บริการ 6 เที่ยวต่อวัน (ไป-กลับ) สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์ แนะนำให้ซื้อล่วงหน้าเพราะเป็นรถไฟที่เต็มเร็วมากๆ
- รถไฟธรรมดา นั่งรถไฟสาย JR Chuo Line ขบวน Azusa และ Kaiji จากสถานีชินจูกุไปลงที่สถานี Otsuki ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเปลี่ยนนั่งรถไฟสาย Fujikyuko ไปลงที่สถานี Kawaguchiko ใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง
รถบัส
- นั่งรถบัส Highway Bus จากสถานีชินจูกุที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal ไปลงสถานีคาวากุจิโกะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที หลายคนนิมวิธีนี้เพราะไม่ต้องต่อรถแถมราคาประหยัดอีกด้วย (สามารถจองตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์ได้ 1 เดือน)
- นั่งรถบัส Highway Bus จากสถานี Tokyo Station Yaesu South Exit มาลงที่สถานีคาวากุจิโกะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง (สามารถจองตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์ได้ 1 เดือน ราคาอาจแตกต่างไปตามวันที่เดินทาง)
คาวากุจิโกะ คือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวของญี่ปุ่นที่อยากให้ทุกคนมาเที่ยวจริงๆ ค่ะ อย่างที่บอกไปแล้วว่าที่นี่เดินทางมาง่าย แถมยังมีจุดท่องเที่ยวมากมาย จริงๆ มาเที่ยวได้ทุกฤดูเลยนะคะเพราะแต่ละฤดูก็มีไฮไลท์ต่างกัน ถึงแม้บ้างช่วงฟ้าอาจจะปิด มีเมฆหนาบดบังวิวฟูจิซังไปบ้าง แต่เชื่อเถอะค่ะมาที่แล้วไม่ผิดหวังแน่นอน และถ้าอยากมาเที่ยวกับทัวร์แบบชิลๆไม่ต้องวางแพลนเองให้ยุ่งยาก ทักหายักษ์ทัวร์ได้เลยนะคะ
ไม่พลาดเรื่องเที่ยว และดีลเด็ด ติดตามยักษ์ทัวร์ได้ทุกช่องทาง
Facebook | yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/1osb9
Instagram | @yaktour_th 👉🏼 https://shorturl.at/sYHiJ
TikTok | @yaktourgroup 👉🏼 https://shorturl.at/PqCSS
สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
Line Official Account | @yaktour 👉🏼 https://shorturl.at/QDAGI
🔍 แนะนำให้อ่าน