เราจะพาทุกคนไป เที่ยวญี่ปุ่น สัมผัสหิมะหน้าร้อนที่เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติที่วิวสวยสุดๆ และที่นั่นก็คือ เจแปนแอลป์ กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น ในเส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route ค่ะ บอกเลยว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง วันนี้พี่ยักษ์จะมา อับเดต! กำหนดการเปิดเส้นทาง เจแปนแอลป์ ชม กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น 2024 ใครพร้อมแล้วเตรียมตัวไป ทัวร์ญี่ปุ่น กับพี่ยักษ์ได้เลย!
เจแปนแอลป์ Tateyama-Kurobe Alpine Route
เป็นเส้นทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของจังหวัดโทยามะและจังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีวิวทิวทัศน์เป็นเทือกเขาสวยงามเหมือนเทือกเขาแอลป์ จนได้ชื่อว่า เจแปนแอลป์ นั่นเองค่ะ โดยจุดที่สูงที่สุดของที่นี่คือ ยอดเขาทาเตยามะ มีสูงประมาณ 3,015 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งสูงเป็นอันดับสองในประเทศญี่ปุ่นรองจากภูเขาไฟฟูจิ แต่จะมีจุดสูงสุดที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมได้อยู่ที่ มุโรโดะ (Murodo) มีความสูงประมาณ 2,450 เมตร โดยมีไฮไลท์สำคัญเรียกว่า “Yuki no Otani” หรือ กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นหิมะในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนที่สวยอลังการมากเลยล่ะค่ะ
กำหนดการชม เจแปนแอลป์ กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น 2024
ช่วงเวลาที่เปิดให้บริการชม เจแปนแอลป์ บนเส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route นั้นในแต่ละปีจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และการเปิดให้บริการเข้าชมของเส้นทางต่างๆ ในปี 2024 มีดังนี้ค่ะ
- ช่วงเวลาเปิดเส้นทางให้บริการทุกเส้นทาง (Dentetsu Toyama – Shino Omachi) คือ ตั้งแต่ วันที่ 15 เมษายน 2024 – 30 พฤศจิกายน
- ปิดเส้นทางตั้งแต่ เดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนเมษายน
- เทศกาลชมกำแพงหิมะ เริ่มวันที่ 15 เมษายน – ปลายเดือนมิถุนายน
การเดินทางไปชม เจแปนแอลป์ กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น 2024
สำหรับเส้นทางที่จะไปพิชิต เจแปนแอลป์ Tateyama-Kurobe Alpine Route นี้ สามารถเดินทางได้สะดวกด้วยระบบขนส่ง เช่น รถไฟ รถประจำทาง เคเบิ้ลคาร์ กระเช้าไฟฟ้า และ รถบัส โดยจะเริ่มตั้งแต่จากพื้นที่ราบขึ้นไปยังภูเขาสูง ระยะทางโดยรวมประมาณ 90 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางก็จะผ่านทัศนียภาพที่สวยงามและหลากหลายให้ชมซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปตามฤดูกาลค่ะ เที่ยวญี่ปุ่นทริปนี้ใครที่สนใจอยากขึ้นไปพิชิตเจแปนแอลป์ สามารถเริ่มต้นจาก 2 เมือง คือ ทางเมืองโทยามะ (สถานี Dentetsu Toyama ) และ เมืองนากาโนะ (สถานี Nagano) ซึ่งถ้าจะให้ดีพี่ยักษ์แนะนำให้ค้างคืนที่เมืองใกล้ๆก่อนออกเดินทางขึ้นไปยังเทือกเขาทาเตยามะ จะได้ไม่เหนื่อยมากไป เนื่องจากต้องเริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า และใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะเดินทางให้ครบทุกเส้นทาง
การเตรียมตัวไปเที่ยว เจแปนแอลป์ กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น 2024
เนื่องจาก เจแปนแอลป์ เส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route เป็นเส้นทางที่อยู่บนเทือกเขาสูง อุณหภูมิจึงมีความแตกต่างกับพื้นที่ราบอย่างชัดเจน ก่อนการเดินทางพี่ยักษ์แนะนำให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมจะได้เที่ยวกันอย่างสนุกสนานและเต็มที่กันแบบสุดๆ
โดยอุณหภูมิในช่วงประมาณปลายเดือนเมษายน-พฤษภาคม ถือเป็นช่วงพีคของการเดินทางบนเส้นทาง เจแปนแอลป์ ที่จุดมุโรโดะ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 10 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ -3 องศาเซลเซียส
ส่วนเมืองโทยามะ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 7 องศาเซลเซียส
บอกเลยว่าอากาศที่นี่จะเปลี่ยนแปลงเร็ว โดยเฉพาะในช่วงพีคของกำแพงหิมะ “ยูคิโนะโอทานิ ดังนั้น ควรเตรียมเสื้อกันหนาว หรือเสื้อผ้าหนาๆที่ให้ความอบอุ่นได้ดี เช่น เสื้อโค้ท เสื้อฮีทเทค เสื้อแจ็คเก็ต ผ้าพันคอ หมวกไหมพรม และถุงมือ แต่ถ้าจะให้ดีควรมีแผ่นแปะความร้อ รวมถึงอุปกรณ์สำหรับกันฝนติดไว้ในกรณีที่อากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหันด้วยนะคะ
ไฮไลท์ 5 ที่เที่ยวในเส้นทางเจแปนแอลป์
กำแพงหิมะ Yuki no Otani
ทัวร์ญี่ปุ่นทริปนี้ พาเที่ยวจุดชมกำแพงหิมะ ญี่ปุ่น หรือ ยูคิโนะโอทานิ จะอยู่ที่บริเวณ มุโรโดะ (Murodo) เป็นกำแพงหิมะที่มีความสูงกว่า 20 เมตร มีทางเดินยาวตามถนน ระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร ตรงจุดนี้ นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงามของกำแพงหิมะผ่านกระจกบนรถบัส ซึ่งเป็นรถของทางอุทยานที่ขับโดยคนขับผู้มีความชำนาญเส้นทาง และสามารถลงมาเดินเท้าสัมผัสได้อย่างใกล้ชิดได้เลยค่ะ
เส้นทางธรรมชาติมุโรโดะ
มุโรโดะ บริเวณนี้นอกจากจะเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นจุดชมกำแพงหิมะแล้ว ก็ยังเป็นเส้นทางธรรมชาติที่มีทัศนียภาพที่น่าสนใจมากมาย โดยเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเจแปนแอลป์สำหรับนักท่องเที่ยวที่พักอยู่บริเวณนี้ด้วยค่ะ
บึงมิกุริกะ (Mikuriga-ike)
ในท่ามกลางภูเขาสูงมากมาย บริเวณนี้ก็ยังมีสระน้ำสีสวยตามธรรมชาติอย่าง บึงมิกุริกะ ที่น้ำในสระจะมีสีน้ำเงินเข้ม และสีเขียวมรกตในช่วงฤดูร้อน สะท้อนให้เห็นภาพภูเขาทาเตยามะบนผืนน้ำได้อย่างโดดเด่นและงดงาม เป็นอีกจุดยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะมาถ่ายรูปกันค่ะ
น้ำพุร้อนมิกุริกะ-อิเกะ
มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีต้องได้สัมผัสการแช่ออนเซ็น น้ำพุร้อนธรรมชาติดูสักครั้งนะคะ ซึ่งบนภูเขาสูงแบบนี้ก็มีน้ำพุร้อนธรรมชาติอยู่ด้วย นั่นคือ น้ำพุร้อนมิกุริกะ-อิเกะ น้ำพุร้อนอยู่ใกล้ๆ กับทางเดินไปบึงมิกุริกะ เป็นน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย
ไดคัมโป (Daikanbo)
ไฮไลท์ที่เที่ยวในเส้นทางเจแปนแอลป์ที่ถัดลงมา คือ ไดกัมโบ ซึ่งอยู่ถัดลงมาจากพื้นที่มุโรโดะ ที่ความสูง 2,316 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีระเบียงชมวิวภูเขาเหมือนนั่งอยู่บนระเบียงชั้นดาดฟ้า เป็นจุดพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและวิวสวยๆ ฟินสุดๆไปเลยค่ะ
คุโรเบะไดระ (Kurobe-daira)
เป็นที่ตั้งของที่ราบสูงบนไหล่เขาที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของช่องเขาเหวลึก
นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวได้อย่างใกล้ชิดด้วยการนั่งกระเช้าข้ามเหวเป็นระยะทาง 1,700 เมตร เส้นทางนี้เต็มไปด้วยชมวิวธรรมชาติสวยๆ ให้ได้ชมกัน และยังได้รู้สึกตื่นเต้นนิดๆ กับการขึ้นกระเช้า เพราะเป็นกระเช้าที่เป็นลวดสลิงไม่มีเสาค้ำหรือคั่นกลางตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง จนได้ฉายาว่า กระเช้าพาโนราม่า นั่นเองค่ะ
เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam)
มาถึงไฮไลท์ที่เที่ยวในเส้นทางเจแปนแอลป์ที่สุดท้าย โดยถ้านั่ง Kurobe Cable Car ลงมา ก็จะเจอ เขื่อนคุโรเบะ เป็นเขื่อนที่มีความสูงที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีความสูงถึง 186 เมตร ที่นี่เป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่นำมาใช้พัฒนาประเทศญี่ปุ่นภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจนเกินคำบรรยายเลยทีเดียว และในวันที่อากาศดีก็ยังมีกิจกรรมน่าสนใจอย่างการล่องเรือสำราญ “Garube” อีกด้วยนะคะ
เจแปนแอลป์ เส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route ถือเป็นอีหนึ่งที่เที่ยวเส้นทางธรรมชาติที่น่าสนใจและควรค่าแกการมาสัมผัสสักครั้งในชีวิตจริงๆค่ะ บอกเลยว่าถ้าได้มาสักครั้งจะประทับใจแบบไม่รู้ลืมเลยทีเดียว
สนใจทัวร์ญี่ปุ่นทักหาพี่ยักษ์ได้เลยค่ะ >> Line : @Yaktour