Logo
เรื่องเล่าเที่ยว

หุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่ หมู่บ้านโบราณริมผาสุดอลังการ งดงามราวสวรรค์บนดิน

17 ธันวาคม 2568
YakTour Blog
ที่เที่ยวจีน หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่

ประเทศจีน มีที่เที่ยวธรรมชาติอลังการมากมาย หนึ่งในนั้นคือ หุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่ หมู่บ้านโบราณริมผาที่สวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวรรค์บนดิน” รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันและหมอกขาว บทความนี้ ยักษ์ทัวร์ จะพาไปรู้จัก หุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่ ให้มากขึ้น จนถึงการวางแผนเดินทาง เตรียมตัวให้พร้อม แล้วเดินทางสู่ดินแดนแห่งเซียนพร้อมกันได้เลย!

 

หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ และสะพานไม้โบราณ

รู้จัก หุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่

 

หุบเขาเทวดา (Wangxian Valley) หรือ วั้งเซียนกู่ (望仙谷) เป็นหมู่บ้านโบราณที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าพันปี ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย ตั้งอยู่ที่เมืองซ่างเหรา มณฑลเจียงซี ประเทศจีน ลักษณะภูมิประเทศเป็นหุบเขาที่ทอดตัวยาวไปตามแม่น้ำซงจู๋ โดดเด่นด้วยภูเขาหินปูนสลับซับซ้อน ความสูงราว 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล เอกลักษณ์ของที่นี่คือ หมู่บ้านโบราณริมหน้าผา ที่ผสานกลมกลืนไปกับธรรมชาติอย่างงดงาม จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวรรค์บนดิน” และกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและวัฒนธรรมไม่ควรพลาด

 

เดิมทีหุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่ เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่น แต่ในปี ค.ศ. 2011 มีการพัฒนาอย่างจริงจัง ทั้งการสร้างถนน สิ่งอำนวยความสะดวก ที่พัก ร้านอาหาร ไปจนถึงคาเฟ่และบาร์ ทำให้บรรยากาศมีทั้งความดั้งเดิมและความทันสมัยผสมผสานกัน ปัจจุบันที่นี่ได้รับการยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยว ระดับ 4A ของมณฑลเจียงซี ซึ่งยืนยันได้ถึงคุณภาพและความน่าสนใจที่ดึงดูดผู้มาเยือนจากทั่วโลก

 

 

ไฮไลต์ห้ามพลาดที่ หุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่

  1. หมู่บ้านโบราณริมหน้าผา 

จุดเด่นที่สุดของที่นี่คือ หมู่บ้านที่สร้างขึ้นอย่างอัศจรรย์ตามแนวหน้าผาสูงชัน แต่ละหลังคาเรือนถูกสร้างด้วยไม้และหินในสไตล์จีนโบราณ เรียงรายลดหลั่นกันไปตามทางเดินแคบๆ ทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามและแปลกตาเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปตามบันไดหินเพื่อชมความงามของสถาปัตยกรรมเหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิด หรือจะมองจากมุมไกลเพื่อเก็บภาพสวยงามอลังการ โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่แสงไฟประดับจะส่องสว่างไปทั่วทั้งหุบเขา สร้างบรรยากาศราวกับอยู่ในโลกแห่งเทพนิยาย ซึ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ และบันไดไม้

  1. สัมผัสธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์

หุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่ ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ ทั้งภูเขาหินปูนที่สลับซับซ้อน ป่าไม้เขียวชอุ่ม และสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ที่นี่เต็มไปด้วยอากาศที่บริสุทธิ์และเงียบสงบ เหมาะสำหรับการเดินเล่นพักผ่อนและชื่นชมความงามของป่าเขา หากเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติรอบๆ หุบเขาจะได้เจอกับน้ำตกเล็กๆ และทิวทัศน์อันงดงามที่ซ่อนตัวอยู่ การได้มาสัมผัสกับความสงบและความสดชื่นอย่างเต็มที่แบบนี้ ถือเป็นการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบสุดๆ ไปเลยค่ะ 

  1. ทางเดินกระจกและทางเดินเลียบผา 

สำหรับใครที่ชื่นชอบความท้าทาย ที่นี่มีทางเดินกระจกและทางเดินไม้ที่ทอดยาวเลียบไปตามหน้าผา ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสกับความตื่นเต้นและชมทิวทัศน์ของหุบเขาในมุมมองที่แตกต่างออกไป การได้เดินไปบนทางเดินกระจกที่สามารถมองเห็นเบื้องล่างได้ จะสร้างความรู้สึกหวาดเสียวปนกับความประทับใจในความงามของธรรมชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการถ่ายภาพเพื่อเก็บเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืม

  1. สะพานไม้โบราณเหนือสายน้ำ 

ภายในหุบเขาเทวดาแห่งนี้ มีสะพานไม้โบราณที่ทอดยาวข้ามสายน้ำที่ไหลผ่านหุบเขา สะพานนี้ไม่ได้เป็นเพียงทางเดินเชื่อมต่อเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาหยุดพักเพื่อถ่ายภาพบรรยากาศที่สวยงามและเงียบสงบอีกด้วย คุณสามารถถ่ายภาพสะพานไม้โบราณที่มีฉากหลังเป็นภูเขาและหมู่บ้านริมผาได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ในยามค่ำคืนที่แสงไฟถูกเปิดขึ้น สะพานแห่งนี้จะสะท้อนเงาที่สวยงามบนผืนน้ำ ทำให้ภาพที่ได้ยิ่งดูมหัศจรรย์ยิ่งขึ้นไปอีก

 

หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ และสะพานไม้โบราณ

  1. ร้านค้าและกิจกรรมสไตล์ย้อนยุค 

ภายในหมู่บ้านจะมีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านน้ำชามากมายที่ตกแต่งในสไตล์โบราณ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต คุณสามารถเดินเล่นเพื่อเลือกซื้อของที่ระลึกที่น่าสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้าน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่พร้อมเสิร์ฟอาหารท้องถิ่นรสชาติดั้งเดิมให้คุณได้ลิ้มลอง และในบางช่วงยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การแสดงดนตรีพื้นบ้าน ซึ่งช่วยเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และทำให้คุณได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมจีนอย่างแท้จริง

 

หุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่ เที่ยวช่วงไหนดี?

การเดินทางไปหุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่ สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยแต่ละฤดูก็จะมอบความงามและบรรยากาศที่แตกต่างกันไป ดังนี้

 

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม) : ช่วงเวลานี้หุบเขาจะเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ที่บานสะพรั่งทั่วทั้งหุบเขา เป็นช่วงที่ธรรมชาติกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง อากาศกำลังเย็นสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป เหมาะกับการชมหมอกยามเช้าและเดินเล่นถ่ายรูปดอกไม้ชิลๆ

 

  • ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) : แม้จะเป็นฤดูร้อนแต่ภายในหุบเขาก็ยังคงมีอากาศที่เย็นสบายและสดชื่นจากสายน้ำและป่าไม้ เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำ เช่น การล่องเรือชมวิวไปตามแม่น้ำซงจู๋ หรือการเล่นน้ำในลำธารเล็กๆ ที่ไหลผ่านหุบเขา นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่พืชพรรณต่างๆ จะเติบโตอย่างเต็มที่ ทำให้หุบเขาดูเขียวขจีและร่มรื่น

 

  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) : เป็นช่วงที่สวยงามที่สุดของปีเมื่อต้นไม้เริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นสีเหลือง ส้ม และแดง บรรยากาศจะเต็มไปด้วยความโรแมนติกและอบอุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีโดยเฉพาะ อากาศจะเริ่มเย็นลง ทำให้เดินเที่ยวได้อย่างสบาย และยังเป็นช่วงยอดฮิตของนักถ่ายภาพอีกด้วยค่ะ

 

  • ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) : หากคุณต้องการสัมผัสกับความงามของหิมะ หุบเขาเทวดาในฤดูหนาวคือคำตอบที่ใช่ ในบางช่วงหุบเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ทำให้เกิดทัศนียภาพที่งดงามราวกับดินแดนในเทพนิยาย เป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบและเหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

 

หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ ท่ามกลางสายหมอก

กิจกรรมน่าสนใจในหุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่

หุบเขาเทวดาแห่งนี้ ไม่เพียงแต่มีทิวทัศน์งดงามเกินคำบรรยาย แต่ยังมีกิจกรรมหลากหลายที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจ ใครที่มาเยือนที่นี่ควรลองกิจกรรมเหล่านี้

1. เดินป่าศึกษาธรรมชาติ : เส้นทางเดินป่าเต็มไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ ภูเขาหินปูน และลำธารใส การได้เดินไปตามทางธรรมชาติช่วยให้ได้สัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบ สูดอากาศบริสุทธิ์ และยังได้เรียนรู้ความหลากหลายของพืชพรรณในท้องถิ่น

2. ถ่ายภาพมุมมหัศจรรย์ : ทุกมุมของหุบเขาเทวดาเหมาะแก่การเก็บภาพความประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น หมู่บ้านโบราณริมหน้าผา ที่หาชมได้ยาก หรือทิวเขาสลับซับซ้อนที่ปกคลุมด้วยหมอกในยามเช้า รับรองว่าภาพถ่ายที่ได้จะสวยไม่ต่างจากโปสการ์ด

3. ชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก : ช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุดของหุบเขา วั้งเซียนกู่ คือยามเช้าที่หมอกขาวโอบกอดหมู่บ้าน และยามเย็นที่แสงอาทิตย์สาดทอเป็นสีทองทั่วหุบเขา นักท่องเที่ยวมักนิยมจับจองมุมชมวิวเพื่อรอเก็บภาพช่วงเวลาสุดพิเศษนี้กันค่ะ

4. ล่องเรือชมวิวแม่น้ำซงจู๋ : หนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการล่องเรือไปตามแม่น้ำซงจู๋ที่ไหลผ่านกลางหุบเขา ระหว่างทางจะได้เห็นภูเขาสูงตระหง่าน น้ำตก และต้นไม้เขียวขจีจากมุมมองที่แตกต่างออกไป ช่วยให้ได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

5. พักผ่อนที่คาเฟ่และร้านน้ำชาริมผา : หลังจากเดินเที่ยวชมธรรมชาติแล้ว การได้นั่งจิบชาหรือกาแฟในคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาก็ถือเป็นอีกหนึ่งความฟิน บรรยากาศสงบพร้อมวิวภูเขาสุดอลังการทำให้การพักผ่อนเต็มไปด้วยความประทับใจ

การเดินทางไปหุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่

  • เครื่องบิน : วิธีที่รวดเร็วที่สุดคือการเดินทางโดยเครื่องบินมาลงที่ สนามบินซ่างเหรา (Shangrao Sanqingshan Airport - SQS) เมื่อถึงสนามบินแล้ว สามารถต่อรถบัสจากสนามบินไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารซ่างเหรา และใช้บริการรถบัสต่อไปยังหุบเขาเทวดา ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากสนามบินทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง

     
  • รถไฟความเร็วสูง : อีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงมายัง สถานีรถไฟซ่างเหรา (Shangrao Railway Station) ซึ่งมีรถไฟจากเมืองใหญ่ๆ ทั่วจีน เมื่อมาถึงสถานีแล้ว สามารถขึ้นรถบัสประจำทางไปยังหุบเขาเทวดาได้เลย

     
  • รถบัส : หากคุณอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง การเดินทางโดยรถบัสก็เป็นอีกวิธีที่สะดวก โดยสามารถขึ้นรถบัสจาก สถานีขนส่งผู้โดยสารซ่างเหรา ซึ่งมีรถโดยสารมุ่งหน้าตรงไปยังหุบเขาเทวดาให้บริการอย่างสม่ำเสมอ

     

หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่

ค่าเข้าชม หุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่

ราคาปกติ (ผู้ใหญ่) 

  • วันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) = 100 หยวน 
  • วันหยุดสุดสัปดาห์: 120 หยวน

ราคาเด็กและผู้สูงอายุ =  60 หยวน

 

ราคาค่าเข้าชมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนเดินทาง และราคานี้เป็นค่าเข้าชมเพียงอย่างเดียว ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าที่พัก หรือค่ากิจกรรมต่างๆ ภายในหุบเขาค่ะ

สรุป

หุบเขาเทวดา วั้งเซียนกู่ ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจีน แต่คือดินแดนที่ผสมผสานความอัศจรรย์ของธรรมชาติเข้ากับความมหัศจรรย์ของสถาปัตยกรรมได้อย่างลงตัว ที่นี่จะมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำตั้งแต่ก้าวแรกที่ไปถึง ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบในยามเช้า สีสันที่สดใสในยามบ่าย และแสงไฟระยิบระยับที่ทำให้หุบเขากลายเป็นโลกแห่งเทพนิยายในยามค่ำคืน เพราะฉะนั้นการได้มาเห็นหมู่บ้านริมหน้าผาอันน่าทึ่งด้วยตาตัวเอง สูดอากาศบริสุทธิ์ และดื่มด่ำกับบรรยากาศ จะทำให้คุณเข้าใจว่าทำไมที่นี่ถึงได้ชื่อว่าเป็น "สวรรค์บนดิน" อย่างแท้จริง

 

 

จองทัวร์กับยักษ์ทัวร์วันนี้ พร้อมโปรพิเศษ แอดมาเลยที่ Line @yaktour

Line Official Account | @yaktour  👉 https://lin.ee/NLwXWc1
 

ไม่พลาดเรื่องเที่ยว และดีลเด็ด ติดตามยักษ์ทัวร์ได้ทุกช่องทาง

Facebook | yaktourgroup 👉 https://shorturl.at/ov7AJ

Instagram | @yaktour_th 👉 https://shorturl.at/2uS64

TikTok | @yaktourgroup 👉 https://shorturl.at/DMF90

Youtube | @yaktour 👉 https://shorturl.at/VFWok
 

 

แชร์บทความนี้

บอกเพื่อนๆ ถึงเรื่องราวดีๆ จาก YakTour

YAKTOUR Logo

BY B.BEBETTER TRAVEL 2012 CO.,LTD.

ยักษ์ทัวร์ คัดสรรเฉพาะทัวร์คุณภาพ เชื่อถือได้ 100%

ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/09294

สมาชิกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว เลขที่ 03593

e-Commerce No. 0105557025943

90/1000 ถ.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ. นนทบุรี 11120

Call Center

Office Hours

จันทร์ - ศุกร์ 10.00-19.00 น.

Line ID

@yaktour

LINE@

LINE QR Code
Add Friends

@yaktour

Copyright 2021 YAKTOUR. All Rights Reserved