ใครเป็นสายรักธรรมชาติ ชอบเที่ยวป่า บอกเลยว่า Kamikochi คามิโคจิ คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด! เพราะที่นี่คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติในญี่ปุ่น ด้วยวิวภูเขาสวยตระการตา สายน้ำสีเขียวใสที่ไหลผ่าน และป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ จึงถูกขนานนามว่าเป็น “สวรรค์ของนักเดินป่า” ที่เที่ยวธรรมชาติในญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด ซึ่งบทความนี้จะพาไปดูว่า Kamikochi 2025 เปิดเมื่อไหร่ เดินทางยังไง และมีอะไรให้เที่ยวบ้าง พร้อมแนะนำไฮไลท์เด็ด ๆ ให้เตรียมตัวออกเดินทางกันเลยค่ะ

Kamikochi คืออะไร? คามิโคจิคือที่ไหน?

คามิโคจิ คือ ดินแดนแห่งขุนเขาและสายน้ำที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ พื้นที่ธรรมชาติที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติชูบุซังกาคุ (Chubu Sangaku National Park) จังหวัด นากาโนะ (Nagano) เเป็นที่ราบสูงทอดยาวไปตามแม่น้ำอาซุสะกว่า 15 กิโลเมตร และมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,500 เมตร ทำให้อากาศเย็นสบายตลอดฤดูที่เปิดให้เข้าชม ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งป่าไม้เขียวขจี ลำธารสีฟ้าใส และทิวเขาอลังการ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติเลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง

Kamikochi คามิโคจิ เปิดเมื่อไหร่ ? ไปช่วงไหนดี

คามิโคจิจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี โดยในปี 2025 จะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน แต่จะเปิดบริการเต็มรูปแบบในวันที่ 27 เมษายน 2568 ซึ่งรวมถึงร้านอาหาร ร้านของที่ระลึก และที่พักบางส่วนด้วย

สรุปว่านักท่องเที่ยวสามารถเดินชมคามิโคจิได้ ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน แต่ร้านค้าและบริการบางแห่งอาจยังไม่เปิดให้บริการนะคะ ส่วนใหญ่จะเริ่มเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 27 เมษายน 2568 เป็นต้นไปค่ะ

นักท่องเที่ยวเข้าชมและสัมผัสบรรยากาศคามิโคจิ (kamikochi) ก่อนจะปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาว ซึ่งในแต่ละฤดูกาลที่นี่ก็จะสวยงามแตกต่างกัน ใครชอบเที่ยวบรรยากาศแบบไหน และแต่ละฤดูมีจุดเด่นอย่างไร ตามไปดูกันเลยค่ะ

• ฤดูใบไม้ผลิ : เริ่มตั้งแต่ช่วง เดือนเมษายน – พฤษภาคม ในช่วงแรกอาจจะมีหิมะให้เห็นบางเล็กน้อย อุณหภูมิในช่วงนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1 – 19 องศาเซลเซียส ต้นไม้เขียวขจี ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง อาจจะเจอฝนบ้างในช่วงเดือนมิถุนายนค่ะ

  

• ฤดูร้อน : อยู่ระหว่าง เดือนมิถุนายน – กันยายน เป็นฤดูร้อนที่อากาศไม่ได้ร้อนเท่าบ้านเราหรอกนะคะ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 12 -24 องศาเซลเซียส และยังเป็นช่วงที่นิยมที่สุดสำหรับการเดินป่า ปีนเขา และทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ อีกด้วยค่ะ

  

• ฤดูใบไม้ร่วง : ตรงกับช่วง เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน คามิโคจิจะกลายเป็นดินแดนแห่งสีสัน เพราะว่าใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม และแดง สวยงามมากทีเดียว ถือเป็นช่วงที่คามิโคจิ (kamikochi) สวยที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้  ในช่วงนี้อุณหภูมิจะเริ่มลดลง อากาศจะเย็นสบาย โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 4 – 14 องศาเซลเซียส บางปีพอเข้าปลายเดือนพฤศจิกายนอาจเริ่มมีหิมะตกบ้างแล้วค่ะ

  

• ฤดูหนาว : เป็นช่วง เดือนพฤศจิกายน – เมษายน จะเป็นช่วงที่อุทยานปิดทำการ เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ และเนื่องจากสภาพอากาศหนาวจัด หิมะตกหนัก จึงไม่สะดวกในการเข้าชมนั่นเองค่ะ

คามิโคจิมาเที่ยวแบบไปเช้า – เย็นกลับ แต่ใครที่อยากมาเที่ยวแบบเต็มอิ่มพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ในอุทยานก็มีที่พักไว้ให้บริการด้วยนะคะ สำหรับคนที่เลือกช่วงเวลาที่อยากมาเที่ยวได้แล้ว ไปดูไฮไลท์ที่เที่ยวในคามิโคจิกันต่อเลยค่ะ

ที่เที่ยวใน kamikochi คามิโคจิ

• แม่น้ำอาซุสะ (Azusa River)

แม่น้ำสายหลักที่ใสสะอาดไหลลดเลี้ยวไปทั่วหุบเขา แม่น้ำแห่งนี้ถือเป็นหัวใจของ คามิโคจิ มีเส้นทางเดินเท้าที่สวยงามเลียบขนานไปกับแม่น้ำอะซุสะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมธรรมชาติและสัมผัสความงามของสายน้ำได้อย่างใกล้ชิด

• สะพานคัปปะ (Kappa Bridge)

แลนด์มาร์กอันดับหนึ่งของKamikochi ที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาถ่ายรูปเช็คอินที่นี่ สะพานคัปปะ เป็นสะพานแขวนสร้างด้วยไม้ทอดข้ามแม่น้ำอะซุสะบริเวณใจกลางของหุบเขา มองเห็นความสวยงามของเทือกเขาโฮทากะ (Hotaka) แบบพาโนรามา นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกอยู่บริเวณนี้อีกด้วย

• บึงไทโช (Taisho Pond)

หนึ่งในจุดชมวิวที่สวยงามและเงียบสงบที่มาพร้อมกับภาพสะท้อนของภูเขาและต้นไม้บนผิวน้ำ บึงนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟยาเกะดาเกะ (Mt.Yakedake) เมื่อปี ค.ศ. 1915 ทำให้เราเห็นเศษไม้ที่ผุพังบ้าง แต่บรรยากาศโดยรวมถือว่างดงามเกินบรรยายจริงๆ ค่ะ

• บึงเมียวจิน (Myojin Pond)

อีกหนึ่งจุดที่เงียบสงบและมีบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าโฮทากะ (Hotaka Shrine) ทุกๆ ปีจะมีการจัดเทศกาลโอฟุเนะมัตสึริขึ้นที่นี่ในช่วงเดือนตุลาคม โดยจะมีการนำเรือที่ตกแต่งอย่างสวยงามมาลอยในบึง เป็นเทศกาลที่มีสีสันและน่าสนใจมากๆ เลยค่ะ

• บึงทะชิโระ (Tashiro Marshland)

เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมาก ตั้งอยู่ริมเส้นทางการเดินป่าที่เชื่อมระหว่างสะพานคัปปะกับสระน้ำไทโช บริเวณโดยรอบมีด้วยภูเขา มีดอกซาเลีย และดอกซากิสุเกะ จึงทำให้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะเปลี่ยนเป็นสีขาวสวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่งพิกัดที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

การเดินทางไป คามิโคจิ kamikochi

เดินทางโดยรถบัส

เดินทางจากโตเกียว 

สามารถขึ้นรถบัสที่สถานีชินจูกุ เทอมินอล (Shinjuku bus terminal) ยาวไปถึง สถานีคามิโคจิ (Kamikochi-Bus Terminal) ได้เลย  โดยใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 4 – 7 ชั่วโมง

เดินทางจากโอซาก้า

มีรถบัสทางด่วนให้บริการโดยตรงจาก สถานี Shin-Osaka หรือ สถานี Umeda

(โอซาก้า) ไปยังสถานีคามิโคจิได้เลย ใช้ระยะเวลาประมาณ 7 – 8 ชั่วโมง

เดินทางโดยเช่ารถส่วนตัว

• หากขับรถจากโตเกียวไปคามิโคจิ จะใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
• หากขับรถจากโอซาก้าไปคามิโคจิ จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง

เดินทางโดยรถไฟ

การเดินทางไปคามิโคจิด้วยรถไฟ ต้องต่อรถหลายขั้นตอนเนื่องจากไม่มีรถไฟที่วิ่งตรงถึงคามิโคจิเลย โดยเส้นทางที่สะดวกที่สุด คือ ต้องนั่งรถไฟด่วนพิเศษอาซึสะ (Azusa) ตรงสถานีชินจูกุ เพื่อไปลงสถานีมัตสึโมโตะ (Matsumoto Station) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที จากนั้นต่อรถบัสไปคามิโคจิ อีกประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที 

ทั้งหมดนี้คือข้อมูลและรายละเอียดการมาเที่ยว คามิโคจิ (kamikochi) ที่เราได้สรุปมาให้แบบเข้าใจง่ายๆ และสามารถเที่ยวตามได้เลย แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเดินทางมาเที่ยวที่นี่ แนะนำให้เพื่อนๆ วางแผนการเดินทาง เช็คสภาพอากาศ เช็คตารางรถ รวมถึงที่พักสำหรับคนที่อยากค้างคืนที่นี่ หรือหากต้องการความสะดวกสบาย สามารถเลือกจอง ทัวร์ญี่ปุ่น กับยักษ์ทัวร์ได้เลย เราพร้อมดูแลตลอดการเดินทาง โดยมีไกด์นำเที่ยว และรถพาเที่ยวตลอดทั้งทริปแบบไม่ต้องกังวลใจเลยละค่ะ

ไปทัวร์ต่างประเทศ แบบไม่ต้องวางแผนเอง มีคนพาไป พร้อมดูแลอย่างดีตลอดทริป ดูโปรแกรมทัวร์ที่นี่ แล้วเตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม แล้วไปกับ Yaktour ที่จะพาออกเดินทางง่ายๆ เพราะออกแบบโปรแกรมเดินทาง และพาเที่ยวครบ ดูแลอย่างดีตลอดทริป ! พบกับโปรโมชั่นแอดไลน์ครั้งแรก รับส่วนลด 500 บาททันที สอบถามโปรแกรม พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Line: @yaktour 

🔍 แนะนำให้อ่าน

• คามิโคจิ สัมผัสธรรมชาติแห่งแจแปนแอลป์ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
• เที่ยวญี่ปุ่น เทศกาลมัตสึดะซากุระ 2568 / 2025 ประเทศญี่ปุ่น
• ไปญี่ปุ่น ต้องเตรียมอะไรบ้าง ประจำปี 2568